รัฐบาลเกาหลีใต้มีแผนที่จะขายหรือควบรวมกิจการรัฐวิสาหกิจ 41 แห่งจากทั้งหมด 319 แห่งของประเทศ โดยแผนการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของคำปฏิญาณของประธานาธิบดีลี เมียง บัค ที่จะทำให้รัฐวิสาหิจเหล่านี้มีความสามารถในการแข่งขันเพิ่มมากขึ้น
กระทรวงการคลังของเกาหลีใต้ออกแถลงการณ์ระบุว่า แผนการดังกล่าวรวมถึงการขายหุ้น 49% ในบริษัทท่าอากาศยานนานาชาติอินชอน และการขายหุ้นบางส่วนของธนาคารอุตสาหกรรมแห่งเกาหลีและบริษัทในเครือ และนอกจากการขายกิจการแล้ว รัฐบาลยังจะควบรวมบริษัทโคเรีย เนชั่นแนล เฮ้าซิ่ง คอร์ป และบริษัทโคเรีย แลนด์ คอร์ป ด้วย
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า แผนการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของประธานาธิบดีลีในการที่จะส่งเสริมและผลักดันให้บริษัทของเกาหลีมีประสิทธิภาพมากขึ้นและกระตุ้นการขยายตัวของเศรษบกิจเกาหลีใต้ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของเอเชีย
อย่างไรก็ตาม แผนการดังกล่าวจะไม่รวมรัฐวิสาหิจในภาคไฟฟ้า แก๊ส ประปา และการประกันสุขภาพ ซึ่งรวมถึงบริษัทด้านพลังงานขนาดใหญ่สุดของประเทศอย่าง โคเรีย แก๊ส คอร์ป และโคเรีย อิเล็คทริค พาวเวอร์ คอร์ป เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นการเพิ่มต้นทุนด้านพลังงานให้ปรับตัวสูงขึ้นและจะส่งผลกระทบต่อความนิยมในตัวของนายลี
"ในระยะยาวกว่านี้ การแปรรูปรัฐวิสาหกิจจะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทและผู้บริโภค" คิม แจ อึน นักเศรษฐศาสตร์จาก Hana Daetoo Securities Co. กล่าว "แต่ประธานาธิบดีลีจะเริ่มต้นการแปรรูปฯ ในระยะแรกด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากท่านจำเป็นต้องพิจารณาความเห็นของประชาชนและความนิยมที่มีต่อตัวท่านด้วย"
แถลงการณ์ระบุว่า การยกระดับความสามารถของรัฐวิสาหกิจเหล่านี้จะช่วยให้รัฐบาลประหยัดเงินได้ปีละประมาณ 2 ล้านล้านวอน (1.9 พันล้านดอลลาร์)
ทั้งนี้ กระแสความนิยมที่มีต่อนายลี ซึ่งเข้ารับตำแหน่งผู้นำประเทศในเดือนก.พ.นั้น ดิ่งลงมากกว่าครึ่งหนึ่งในระยะเวลาสองเดือน หลังจากที่เขาตัดสินใจกลับมานำเข้าเนื้อวัวจากสหรัฐอีกครั้ง
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--