กระทรวงการคลัง ระบุว่า แม้การจัดเก็บรายได้ในช่วง 2 เดือนหลังที่เหลือของปีงบประมาณ 2551 จะได้รับผลกระทบจากนโยบายของรัฐบาลทั้งมาตรการกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจ ทั้งภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีธุรกิจเฉพาะ และ 6 มาตรการ 6 เดือนฝ่าวิกฤติเพื่อคนไทยทุกคนทำให้จัดเก็บภาษีลดลง แต่คาดว่าการจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลรอบครึ่งปีบัญชี 2551 น่าจะจัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมาย ดังนั้น จึงมั่นใจว่า ปีงบประมาณ 2551 นี้จะสามารถจัดเก็บรายได้สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 1.495 ล้านล้านบาท
นายสมชัย สัจจพงษ์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง ได้เปิดเผยถึง
ผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลในช่วง 10 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2551 (ตุลาคม 2550-กรกฎาคม 2551)รัฐบาลจัดเก็บรายได้รวม 1,239,652 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 40,250 ล้านบาท หรือ 3.4% และสูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 9.7% เป็นผลจากการจัดเก็บภาษีของกรมสรรพากรและกรมศุลกากรที่สูงกว่าประมาณการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม และอากรขาเข้า
โดยในเดือนกรกฎาคม 2551 รัฐจัดเด็บรายได้ 105,505 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 6,616 ล้านบาท หรือ 6.7% (สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 22.1)
สาเหตุสำคัญมาจากภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมายถึง 7,536 ล้านบาท หรือ 19.1% โดยเฉพาะภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้า เนื่องจากมีการนำเข้าน้ำมันดิบ และก๊าซธรรมชาติเป็นจำนวนมาก รวมทั้งการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจยังคงสูงกว่าเป้าหมาย 2,880 ล้านบาท โดยโรงงานยาสูบได้นำส่งรายได้ส่วนที่เหลือจากการกันไว้สร้างโรงงานยาสูบจำนวน 2,575 ล้านบาท และการท่าเรือนำส่งรายได้ก่อนกำหนด 914 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี ภาษีธุรกิจเฉพาะและภาษีเงินได้บุคคลธรรมดายังคงจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ ซึ่งเป็นผลจากนโยบายของรัฐบาลในการกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจของรัฐบาล นอกจากนี้ การจัดเก็บภาษีน้ำมันฯ และภาษีเบียร์ยังจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 1,474 และ 487 ล้านบาท หรือ 21.2% และ 12.1% ตามลำดับ
--อินโฟเควสท์ โดย คลฦ/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--