นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า สถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบันไม่ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจลงทุนของนักธุรกิจต่างชาติ เนื่องจากมีความเข้าใจต่อสถานการณ์ทางการเมืองเป็นอย่างดี
ทั้งนี้ได้มอบนโยบายให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) เร่งส่งเสริมการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพราะจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายแม้จะมีการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีที่กำกับดูแลหรือเปลี่ยนรัฐบาลก็ตาม โดยให้เน้นยุทธศาสตร์การส่งเสริมการลงทุนให้มีความชัดเจน เช่น การจัดโซนนิ่งนิคมอุตสาหกรรมตามประเภทอุตสาหกรรมเพื่อให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น การสรรหาอุตสาหกรรมใหม่ๆ ที่สร้างมูลค่าเพิ่มแก่ประเทศ และหากมีอุตสาหกรรมใดที่ลงทุนแล้วไม่คุ้มค่าก็ต้องพิจารณาถึงความเหมาะสม รวมทั้งให้น้ำหนักกับอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนด้านองค์ความรู้ การวิจัย และพัฒนาด้านการแพทย์ มหาวิทยาลัยทางการแพทย์ อุตสาหกรรมผลิตยา
และการวิจัยยา ซึ่งจะทำให้เกิดองค์ความรู้และอุตสาหกรรมภาคบริการตามมา
รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า เตรียมเชิญกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และบีโอไอ ร่วมประชุมหารือเพื่อกำหนดประเภทการใช้ประโยชน์ของที่ดินทั่วประเทศให้มีความชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่เพาะปลูก พื้นที่อยู่อาศัย และพื้นที่อุตสาหกรรม โดยจะเน้นแผนงานสร้างนิคมอุตสาหกรรมพิเศษตามเขตชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจชายแดน และสนับสนุนการลงทุนแบบเป็นกลุ่ม เช่น กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้เกิดการลงทุนอย่างครบวงจร และอุตสาหกรรมเหล็กคุณภาพพิเศษตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ
นอกจากนี้ ตนและเลขาธิการบีโอไอจะไปประชุมร่วมกับภาคเอกชน เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์ให้ชัดเจนขึ้นและเดินหน้าส่งเสริมการลงทุน โดยจะเดินทางไปเชิญชวนผู้ลงทุนรายใหม่หรือผู้ลงทุนที่กำลังอยู่ระหว่างตัดสินใจ ซึ่งจะมุ่งเน้นที่สถานะและเงินทุนของผู้ลงทุนเป็นหลัก เช่น ประเทศจีน ญี่ปุ่น และกลุ่ม SMEs ในสหรัฐฯและยุโรป
--อินโฟเควสท์ โดย อตฦ/ธนวัฏ/กษมาพร โทร.0-2253-5050 อีเมล์: kasamarporn@infoquest.co.th--