ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์พุ่งหลังสหรัฐเผยยอดขาดดุลการค้าลดลง,ยอดส่งออกสูงขึ้น

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (12 ส.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดขาดดุลการค้าร่วงลงและยอดส่งออกพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ปิดร่วงลงต่ำกว่าระดับ 114 ดอลลาร์
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลงแตะระดับ 1.4916 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.4928 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่เงินปอนด์อ่อนตัวลงแตะระดับ 1.8997 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.19120 ดอลลาร์/ปอนด์
          อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์อ่อนตัวลงแตะระดับ 109.40 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 110.03 เยน/ดอลลาร์
          กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขาดดุลการค้าเดือนมิ.ย.ร่วงลง 4.1% แตะระดับ 5.68 หมื่นล้านดอลลาร์ จากเดือนพ.ค.ที่ระดับ 5.92 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นตัวเลขขาดดุลที่ต่ำที่สุดในรอบ 3 เดือน เนื่องจากยอดส่งออกพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.644 แสนล้านดอลลาร์
          การที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลงในช่วงต้นปีที่ผ่านมาช่วยให้ยอดส่งออกสินค้าของสหรัฐปรับตัวสูงขึ้น และช่วยหนุนตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐพุ่งสูงขึ้นด้วย 
          นอกเหนือจากยอดขาดดุลการค้าที่ลดลงแล้ว ดอลลาร์สหรัฐยังได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ที่ร่วงลง 1.44 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 113.01 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดที่ 112.40 ดอลลาร์ แม้มีข่าวว่าบริษัทบีพีประกาศปิดท่อส่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากแหล่งน้ำมันในทะเลสาบแคสเปียน ที่ทอดผ่านประเทศจอร์เจีย ซึ่งเป็นผลมาจากการสู้รบระหว่างกองกำลังทหารจอร์เจียและรัสเซีย
          นอกจากนี้ สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ปรับลดคาดการณ์ความต้องการน้ำมันใน 30 ประเทศที่พัฒนาแล้ว โดยลดคาดการณ์ความต้องการน้ำมันในประเทศยุโรปและอเมริกาเหนือลงสู่ระดับ 48.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน ลดลงจากปีที่แล้วประมาณ 1.3% ซึ่งการปรับลดคาดการณ์ของ IEA มีขึ้นหลังจากรัฐบาลจีนเปิดเผยยอดนำเข้าน้ำมันดิบประจำเดือนก.ค.ลดลง 7% จากเดือนก.ค.ปีที่แล้ว
          ไมเคิล วูลฟอล์ค นักวิเคราะห์จากแบงค์ ออฟ อเมริกา กล่าวว่า "ทิศทางราคาน้ำมันและดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนตัวในทางตรงกันข้ามเป็นส่วนใหญ่ในปีนี้ เมื่อดอลลาร์อ่อนตัวลงนักลงทุนก็จะทุ่มเม็ดเงินลงทุนเข้าสู่ตลาดน้ำมันดิบและเป็นเหตุให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์พุ่งสูงขึ้น แต่ราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงในขณะนี้กำลังดึงดูดให้นักลงทุนเดินหน้าเข้าตลาดปริวรรตเงินตราอีกครั้ง"
          ค่าเงินยูโรและเงินปอนด์อ่อนตัวลงนับตั้งแต่ธนาคารกลางยุโรปและธนาคารกลางอังกฤษประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับเดิมที่ 4.25% และ 5% ตามลำดับ ในการประชุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยนายฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานธนาคารกลางยุโรปยอมรับว่า เศรษฐกิจในยุโรปชะลอตัวลงแล้วและกำลังส่งผลกระทบต่อหลายประเทศในภูมิภาคแห่งนี้ และในการประชุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทริเชต์ไม่ได้ส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยแต่อย่างใด
          รัฐบาลอังกฤษเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดเงินเฟ้อ พุ่งขึ้น 4.4% ในเดือนก.ค. จากเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 3.8% ซึ่งขยายตัวขึ้นเป็นสองเท่าจากเป้าหมายที่รัฐบาลวางไว้ที่ 2%