ออสเตรเลียเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคทะยาน 9.1% หลังราคาน้ำมันลด

ข่าวต่างประเทศ Wednesday August 13, 2008 09:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคออสเตรเลียเดือนส.ค.ดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 16 ปี หลังราคาน้ำมันปรับตัวลดลงและธนาคารกลางออสเตรเลียส่งสัญญาณว่าอาจจะลดดอกเบี้ย                    
สถาบันสำรวจข้อมูล เวสท์แพ็ค แบงกิ้ง คอร์ป เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคทะยาน 9.1% แตะ 86.2 จุดในเดือนส.ค. ซึ่งถือว่าเป็นการขยายตัวมากที่สุดในรอบเกือบ 2 ปี อย่างไรก็ตาม นับเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกันแล้วที่ดัชนีดังกล่าวอยู่ต่ำกว่าระดับ 100 จุด ซึ่งหมายความว่าผู้บริโภคมีทัศนคติในแง่ลบมากกว่าแง่บวก
เกลนน์ สตีเวนส์ ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลียกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เขาอาจตัดสินใจลดดอกเบี้ยเนื่องจากเศรษฐกิจกำลังอยู่ในภาวะชะลอตัว นอกจากนั้นยังเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระให้กับผู้บริโภคและกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายมากขึ้นด้วย
"ผู้บริโภครู้สึกผ่อนคลายมากกว่าเดิมหลังราคาน้ำมันลดลง ในขณะเดียวกันธนาคารกลางก็ส่งสัญญาณว่าอาจมีการลดดอกเบี้ยด้วย" แมทธิว ฮัสสัน นักเศรษฐศาสตร์จากเวสท์แพ็ค กล่าว "มีแนวโน้มสูงว่าจะมีการลดดอกเบี้ยในเดือนก.ย. ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายผู้บริโภคให้กระเตื้องขึ้น"
ผลสำรวจของสำนักข่าวบลูมเบิร์กเผยว่า นักเศรษฐศาสตร์ 18 จาก 25 ท่านเชื่อว่าคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางออสเตรเลียจะตัดสินใจลดดอกเบี้ยอย่างน้อย 0.25% เหลือ 7% ในการประชุมวันที่ 2 ก.ย.นี้ โดย 5 ท่านจากทั้งหมดเชื่อว่าธนาคารกลางจะลดดอกเบี้ยถึง 0.5% ส่วนอีก 7 ท่านที่เหลือเชื่อว่าธนาคารกลางจะตรึงดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 10.35 น.ตามเวลาซิดนีย์ เงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าแตะ 86.89 เซนต์สหรัฐต่อดอลลาร์ออสเตรเลีย จาก 86.69 เซนต์สหรัฐต่อดอลลาร์ออสเตรเลียก่อนที่จะมีการเปิดเผยรายงานนนี้ ด้านพันธบัตรรัฐบาลระยะเวลา 2 ปียังทรงตัวที่ระดับ 5.79% ส่วนดัชนี S&P/ASX 200 ลดลง 1.3% แตะ 4,986.90 จุด

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ