ญี่ปุ่นเผย GDP ไตรมาส 2 หดตัว 2.4% ชี้ศก.ถดถอยครั้งแรกในรอบ 6 ปี

          อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นดิ่งร่วงลงในไตรมาสที่สองของปีนี้ เนื่องจากภาคการส่งออกที่ซบเซาและอัตราการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ปรับตัวลดลงจนส่งผลให้ญี่ปุ่นเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี 
          คณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาสที่สองร่วงลง 2.4% ต่อปี หลังจากที่ขยายตัวในระดับ 3.2% ในไตรมาสก่อนหน้านี้ ขณะที่นักวิเคราะห์จากโพลล์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดว่า GDP ญี่ปุ่นจะปรับตัวลดลง 2.3%
          การส่งออกดิ่งร่วงลงหนักสุดนับตั้งแต่เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำเมื่อปี 2544 ขณะที่ภาวะราคาอาหารและเชื้อเพลิงที่พุ่งสูงขึ้นเป็นตัวบั่นทอนตัวเลขใช้จ่ายภาคครัวเรือน ขณะเดียวกัน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป ได้รายงานผลประกอบการที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 5 ปีอันเนื่องมาจากการส่งออกไปยังสหรัฐที่ชะลอตัวลง ขณะที่สายการบินเจแปน แอร์ไลน์ส คอร์ป เปิดเผยถึงแผนการปรับลดค่าจ้างพนักงานเพื่อรับมือกับต้นทุนที่พุ่งสูงขึ้น
          ฮิโรชิ ชิราอิชิ นักวิเคราะห์จากเลห์แมน บราเธอร์ส ในโตเกียวกล่าวว่า "เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังอยู่ในภาวะขาลง"
          สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 09.20 น. ตามเวลาในกรุงโตเกียว เงินเยนอ่อนค่าลงแตะที่ 109.14 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 109.33 เยนต่อดอลลาร์ ขณะที่ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียวร่วงลง 1.3% 
         ทั้งนี้ เศรษฐกิจญี่ปุ่นหดตัวลง 0.6% จากไตรมาสแรกที่ขยายตัวในระดับ 0.8% ซึ่งตัวเลขดังกล่าวปรับตัวลดลงสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
         นอกจากนี้ ยอดส่งออกของญี่ปุ่นดิ่งลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปีที่ระดับ 2.3% ขณะที่การนำเข้าลดลง 2.8% ส่วนการใช้จ่ายผู้บริโภคซึ่งเป็นปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจมากกว่าครึ่งนั้นลดลง 0.5% จากไตรมาสแรก เมื่อเทียบกับที่คาดการณ์ว่าจะลดลง 0.6%