นักวิเคราะห์คาดราคาน้ำมันเบนซินพุ่งฉุดยอดค้าปลีกสหรัฐเดือนก.ค.ลด 0.1%

ข่าวต่างประเทศ Wednesday August 13, 2008 14:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ยอดค้าปลีกของสหรัฐประจำเดือนก.ค.มีแนวโน้มปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน เนื่องจากราคาน้ำมันเบนซินที่พุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์บดบังรายได้ของผู้บริโภคที่ได้รับเช็คเงินคืนภาษีของรัฐบาล
นักวิเคราะห์ 75 รายจากโพลล์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ยอดค้าปลีกของสหรัฐในเดือนก.ค.อาจปรับตัวลดลง 0.1% หลังจากที่ขยับขึ้น 0.1% ในเดือนมิ.ย. ขณะที่รายงานตัวเลขเศรษฐกิจอื่นๆอาจสะท้อนให้เห็นถึงราคาอาหารและพลังงานที่แพงขึ้นในช่วงเดือนที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน อัตราการใช้จ่ายของผู้บริโภคซึ่งมีสัดส่วนคิดเป็น 2 ใน 3 ในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจนั้นอาจเบาบางลงต่อเนื่องจากระดับที่ขยายตัวช้าที่สุดในรอบ 17 ปี ขณะที่จำนวนชาวอเมริกันที่ตกงานยังคงมีเพิ่มมากขึ้น ส่วนมูลค่าสินทรัพย์ในตลาดที่อยู่อาศัยจะยังร่วงลงหลังจากสหรัฐผ่านพ้นช่วงที่รัฐบาลจ่ายเช็คเงินคืนภาษีไปแล้ว
อดัม ยอร์ก นักวิเคราะห์จากวาโชเวีย คอร์ป กล่าวว่า "ทันทีที่ช่วงเวลาในการจ่ายเช็คเงินคืนภาษีของรัฐบาลสิ้นสุดลงแล้ว ผู้บริโภคก็จะไม่มีรายได้อื่นๆมาช่วยสนับสนุนให้มีการจับจ่ายใช้สอยมากนัก"
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า กระทรวงแรงงานอาจรายงานตัวเลขราคานำเข้าในเดือนก.ค.ที่พุ่งขึ้น 1% เมื่อเทียบกับระดับที่ขยายตัวขึ้น 2.6% ในเดือนก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นช่วงที่ราคานำเข้าน้ำมันพุ่งทะยานขึ้น 8%
ผู้บริโภคหลักเลี่ยงการซื้อสินค้าราคาแพง เช่น ยานยนต์ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่ลดลงและสถานะทางการเงินของภาคครัวเรือนที่อ่อนตัวลง โดยยอดขายรถยนต์และรถบรรทุกขนาดเล็กประจำเดือนก.ค.อยู่ที่ระดับ 12.5 ล้านคันต่อปี ซึ่งเป็นระดับการขยายตัวต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2536
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐมีกำหนดรายงานตัวเลขค้าปลีกในเวลา 08.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือในคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ