นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ไม่เชื่อว่าแถลงการณ์ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ระบุว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากกระบวนการยุติธรรมนั้น จะส่งผลต่อความไม่เชื่อมั่นในการเข้ามาลงทุนของนักลงทุนต่างประเทศ เพราะเห็นว่านักลงทุนที่จะเข้ามาในไทยคงต้องศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดรอบคอบแล้ว และขณะนี้นักลงทุนต่างประเทศก็ไม่มีปฏิกิริยาต่อเรื่องดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ในมุมมองส่วนตัวเห็นว่าแถลงการณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ น่าจะหมายถึงกระบวนการตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ(คตส.) ที่ยังมีข้อมูลไม่รอบด้าน เช่น กรณีหวยบนดินที่ คตส.ยังมีความเห็นต่างจากอัยการ ซึ่งหลายคดีที่ คตส.ตรวจสอบ กลับมีการดำเนินการแตกต่างกัน เช่น คดีกล้ายาง ทั้งที่ตนร่วมประโยชน์ประชุมคณะรัฐมนตรีด้วย แต่กลับไม่ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีเหมือนอย่างกรณีการอนุมัติออกหวยบนดิน
นอกจากนี้ นพ.สุรพงษ์ ยังปฏิเสธความเกี่ยวข้องกับแกงค์ออฟโฟร์ โดยมองว่าเป็นความพยายามของบางกลุ่มที่ต้องการชี้ให้เห็นว่าแกงค์ออฟโฟร์เป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลทั้งเรื่องการเมืองและเริ่มขยายวงไปถึงตลาดเงินตลาดทุน ซึ่งมองว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะภาวะปัจจุบันคงไม่มีใครสามารถกำหนดทิศทางของตลาดเงินตลาดทุนได้
"เศรษฐกิจใหญ่โตเกินไปที่จะทำได้ และผู้ที่มีบทบาทสำคัญของคณะกรรมการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีความหลากหลายและเป็นผู้มีความรู้ความสามารถได้เข้ามาดูแลเรื่องนี้อยู่แล้ว คงไม่มีใครสามารถไปกำหนดทิศทางตลาดเงินตลาดทุนได้ เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพียงการสร้างความเข้าใจว่ามีกลุ่มผู้มีอิทธิพลมากกว่า" นพ.สุรพงษ์ ระบุ
พร้อมเห็นว่าคณะกรรมการชุดต่างๆ ที่ตั้งขึ้นต้องทำงานเพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าสามารถทำงานได้ เพื่อให้ไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ และต้องสามารถตรวจสอบการทำงาน
นพ.สุรพงษ์ ยังกล่าวถึงความเหมาะสมในการแต่งตั้งนายนิพัทธ พุกกะณะสุต เป็นประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(กลต.)ว่า กระทรวงการคลังมีหน้าที่ตามกฎหมายในการเสนอชื่อกรรมการสรรหาประธาน กลต. ดังนั้น การแต่งตั้งนายนิพัทธ ต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของคนที่ตัดสินใจ แต่เชื่อว่าได้พิจารณากันอย่างรอบคอบแล้ว ส่วนจะเหมาะสมหรือไม่คงต้องไปถามผู้ที่คัดเลือก
อย่างไรก็ดี วันพรุ่งนี้(14 ส.ค.)จะเรียกประชุม 4 หน่วยงานด้านเศรษฐกิจในเวลา 16.00 น. ซึ่งได้แก่ สำนักงบประมาณ, สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.), สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) และธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เพื่อพิจารณาภาพรวมด้านเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีแรก และประเมินเป้าหมายเศรษฐกิจช่วงครึ่งปีหลัง พร้อมกับแนวทางในการพัฒนาเศรษฐกิจ
--อินโฟเควสท์ โดย คลฦ/กษมาพร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--