ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร เยน และปอนด์ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 ส.ค.) เพราะได้รับแรงหนุนจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าเศรษฐกิจในยุโรปจะชะลอตัวลงรุนแรงกว่าเศรษฐกิจในสหรัฐ
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์พุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 109.55 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 109.21 เยน/ดอลลาร์ แต่อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินฟรังค์ที่ระดับ 1.0849 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0868 ฟรังค์/ดอลลาร์
ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.4916 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.4919 ดอลลาร์/ยูโร และเงินปอนด์ร่วงลงแตะระดับ 1.8693 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.8966 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์แข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 0.7025 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.6937 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ และดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้นแตะระดับ 0.8749 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.8718 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย
เม็ก บราวน์ นกัวิเคราะห์จากบริษัทบราวน์ บราเธอร์ส แฮร์ริแมน แสดงความเห็นว่า "ดอลลาร์สหรัฐได้รับปัจจัยหนุนจากข้อมูลที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจในยุโรปจะชะลอตัวลงรุนแรงกว่าเศรษฐกิจสหรัฐ รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจในด้านลบจากอังกฤษและประเทศอื่นๆในยุโรป"
ธนาคารกลางอังกฤษได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจ และคาดว่าเงินเฟ้ออาจจะขยายตัวขึ้นกว่า 5% ก่อนที่จะปรับตัวลงต่ำกว่าเป้าหมายที่ 2% ในช่วง 2 ปี หากอัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับเดิม ส่วนเศรษฐกิจคาดว่าจะขยายตัวประมาณ 0.1% เมื่อเปรียบเทียบกับการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 1%
วิกฤตสินเชื่อทั่วโลกซึ่งทำให้ธนาคารต่างๆต้องปรับลดมูลค่าทางบัญชีและประสบกับภาวะขาดทุนมากกว่า 5 แสนล้านดอลลาร์ในปีที่แล้วนั้น เป็นปัจจัยที่กดดันให้เศรษฐกิจเสี่ยงถดถอย และการคาดการณ์ของธนาคารกลางอังกฤษในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่า ธนาคารกลางยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ และอาจจะเริ่มพิจารณาเรื่องการลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษเปิดเผยว่า อัตราว่างงานของอังกฤษในเดือนก.ค.ขยายตัวสูงสุดในรอบเกือบ 16 ปี และอัตราการขยายตัวของค่าจ้างก็ช้าลง เนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัวลงอย่างหนักจนทำให้บริษัทเอกชนต้องลดการจ้างงานและคงค่าจ้างในระดับต่ำเอาไว้
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเยอรมนีในไตรมาส 2 ปี 2551 จะลดลง 0.5 - 0.7% จากไตรมาสแรกที่ขยายตัว 1.5%
เอ็กเซล เวเบอร์ สมาชิกสภาผู้ว่าการธนาคารกลางยุโรป และประธานบุนเดสแบงค์ กล่าวว่า GDP ของเยอรมนีอาจจะร่วงลงมากกว่าคาดการณ์ เนื่องจากราคาเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--