เยนแข็งค่าเทียบดอลลาร์-ยูโร, คาดนลท.เตรียมทำแคร์รี่เทรดหลังตลาดหุ้นร่วง

          เงินเยนแข็งค่าเมื่อเทียบเงินดอลลาร์และเงินยูโร เนื่องจากตลาดหุ้นทั่วเอเชียปรับตัวลดลงตามตลาดหุ้นสหรัฐ ส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงนอกประเทศญี่ปุ่น
          นอกจากนั้นเงินเยนยังแข็งค่าเมื่อเทียบเงินแรนด์ของแอฟริกาใต้และเงินปอนด์ของอังกฤษ ซึ่งเป็นสองสกุลเงินหลักที่มีการทำแคร์รี่เทรดสูง หลังสหรัฐเผยยอดค้าปลีกที่หดตัวลง และเมอร์ริล ลินช์เผยว่าวิกฤตซับไพร์มยังไม่สิ้นสุดลงในเร็ววันนี้ ด้านเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าเมื่อเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐหลังจากที่ธนาคารกลางออสเตรเลียส่งสัญญาณว่าอาจประกาศลดดอกเบี้ย 
          "มีโอกาสสูงที่เงินเยนจะแข็งค่าขึ้นอีก" อากิระ ทาเคอิ ผู้จัดการทั่วไปบริษัท มิซูโฮะ แอสเซ็ท แมเนจเมนท์ กล่าว "สถานการณ์ที่ยังผันผวนในช่วงนี้อาจก่อให้เกิดการทำแคร์รี่เทรดในอนาคต"
          สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 9.14 น.ตามเวลาโตเกียว เงินเยนแข็งค่าแตะ 162.09 เยนต่อยูโร จาก 163.43 เยนต่อยูโรเมื่อวานนี้ที่นิวยอร์ก ส่วนเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ เงินเยนแข็งค่าแตะ 109.36 เยนต่อดอลลาร์ จาก 109.53 เยนต่อดอลลาร์ ด้านเงินยูโรยังทรงตัวอยู่ที่ระดับ 1.4909 ดอลลาร์ต่อยูโร   
          หากเทียบกับเงินแรนด์ เงินเยนแข็งค่าแตะ 13.8861 เยนต่อแรนด์ จาก 13.9086 เยนต่อแรนด์ และเมื่อเทียบกับเงินปอนด์ เงินเยนแข็งค่าขึ้นแตะ 204.34 เยนต่อปอนด์ จาก 204.87 เยนต่อปอนด์
          ทั้งนี้ การทำแคร์รี่เทรดคือการที่นักลงทุนนำเงินจากประเทศที่มีอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ต่ำไปซื้อสินทรัพย์ในประเทศที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า โดยอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของญี่ปุ่นอยู่ที่ระดับ 0.5% ซึ่งต่ำสุดในกลุ่มประเทศผู้นำทางเศรษฐกิจ ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของยุโรปอยู่ที่ 4.25%, แอฟริกาใต้ 12% และสหราชอาณาจักร 5%