"กรีนสแปน"หนุนรบ.สหรัฐแตกกิจการ"แฟนนีเม-เฟรดดีแมค"-รวบเป็นสมบัติของชาติ

ข่าวต่างประเทศ Thursday August 14, 2008 09:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          อลัน กรีนสแปน อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล ว่า เขาเห็นด้วยกับรัฐบาลสหรัฐที่ใช้มาตรการกอบกู้วิกฤตการณ์ของแฟนนี เม และเฟรดดี แมค ซึ่งเป็นหน่วยงานซึ่งรัฐบาลสหรัฐให้การสนับสนุน (GSE) และมีหน้าที่จัดหาสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยให้แก่ผู้ซื้อบ้าน และกล่าวว่าสถาบันการเงินทั้งสองแห่งควรเป็นสมบัติของชาติและแตกตัวเป็นบริษัทขนาดย่อย
"รัฐบาลควรแตกกิจการแฟนนี เม และเฟรดดี แมค และควรดำเนินการให้เป็นสมบัติของชาติอย่างถูกต้องตามกฎหมาย วิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นกับสถาบันการเงินทั้งสองถือเป็นโอกาสที่รัฐบาลสหรัฐจะหันมาตระหนักถึงการวางรากฐานด้านการเงินอย่างถูกต้อง และการนำสถาบันการเงินทั้งสองมาเป็นสมบัติของชาติก็เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติอย่างแท้จริง" กรีนสแปนกล่าวกับวอลล์สตรีท เจอร์นัล หลังจากที่เขาไม่ค่อยให้สัมภาษณ์กับสื่อมาเป็นเวลาหลายเดือน
การแสดงความคิดเห็นครั้งล่าสุดของกรีนสแปนมีขึ้นหลังจากเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่มีต่อแผนของนายเฮนรี พอลสัน รมว.คลังสหรัฐ ที่สนับสนุนรัฐบาลให้กอบกู้วิกฤตของแฟนนี เม และเฟรดดี แมค
นอกจากนี้ กรีนสแปนยังแสดงความเห็นว่า ภาวะราคาที่อยู่อาศัยตกต่ำในสหรัฐยังไม่สามารถแก้ไขได้ในระยะนี้ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะยังคงสร้างความผันผวนในตลาดการเงินต่อไป อย่างไรก็ตาม ผมคาดว่าราคาที่อยู่อาศัยในสหรัฐจะเริ่มมีเสถียรภาพและเริ่มดีดตัวขึ้นในช่วง 6 เดือนแรกของปีหน้า
สำนักงานกำกับวิสาหกิจที่อยู่อาศัยของรัฐบาลกลางสหรัฐ (OFHEO) ซึ่งเป็นผู้ควบคุมกฎระเบียบของแฟนนี เม และเฟรดดี แมค เปิดเผยว่า แฟนนี เม และ เฟรดดี แมค อาจต้องปรับลดมูลค่าสินทรัพย์ทางบัญชีในวงเงินที่สูงเป็นประวัติการณ์ หลังจากบริษัททั้ง 2 แห่งขาดทุนในตลาดซับไพรม์
เมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา นายเฮนรี พอลสัน รมว.คลังสหรัฐเรียกร้องให้สภาคองเกรสอนุมัติมาตรการพยุงกิจการแฟนนี เม และเฟรดดี แมค และขอสิทธิอำนาจในการเข้าซื้อหุ้นทั้ง 2 บริษัท หลังจากมีข้อมูลว่าบริษัทไม่มีเงินทุนมากพอที่จะปล่อยกู้ในตลาดที่อยู่อาศัยซึ่งทรุดตัวลงหนักสุดนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์เศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ (Great Depression)
โมเช ออเรนบุช นักวิเคราะห์จากเครดิต สวิส ระบุว่า "เฟรดดี แมค ขาดทุนเป็นวงเงินสูงถึง 2.4 หมื่นล้านดอลลาร์ในตลาดซับไพรม์ และคาดว่าจะขาดทุนมากกว่าแฟนนี เม ถึง 2 เท่า ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นและตลาดเงินสหรัฐระส่ำระสายนับตั้งแต่มีข่าวว่าแฟนนี เม และเฟรดดี แมค ขาดสภาพคล่อง ซึ่งแฟนนี เม และเฟรดดี แมคประสบปัญหาตามรอยธนาคารอินดีแมคที่ล้มละลายไปเมื่อไม่นานมานี้ และเป็นการล้มละลายที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เนื่องจากสินทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้มีคุณภาพต่ำ ธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งกำลังเผชิญความท้าทายในเรื่องนี้" สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ