นักวิเคราะห์คาดอุตสาหกรรมขนส่งสินค้าโภคภัณฑ์ทางเรือชะลอตัวหลัง BDI ร่วง

          อุตสาหกรรมขนส่งถ่านหิน ธัญพืช และสินแร่เหล็กทางเรืออาจจะชะลอตัวลงอีก 2 ปี หลังจากที่ชะลอตัวลงนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 2548 เนื่องจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจทั่วโลกที่ชะลอตัวลงและการเพิ่มจำนวนเรือเป็นปัจจัยที่ควบคุมความต้องการวัตถุดิบประเภทต่างๆ
          ดัชนี BDI ร่วงลงติดต่อกันมาจนถึงวันที่ 12 ส.ค.เป็นวันที่ 23 แล้ว ซึ่งถือเป็นสถิติที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปี 2548 โกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป คาดว่า ดัชนีจะปรับตัวลงโดยเฉลี่ย 40% ในปีหน้า และตกลงอีก 47% ในปีหน้า
          แอนเดรียส์ เวอร์ก็อตทิส ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของทันตัน โฮเชียนิค ซึ่งเป็นผู้จัดการเฮดจ์ ฟันด์ชิปปิ้งรายใหญ่ที่สุดในโลก กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นสถานการณ์ช่วงขาลงที่มักจะเกิดขึ้นเป็นวงจรอยู่แล้ว นักลงทุนไม่สนใจซื้อรถยนต์ บ้าน และเมื่อวงจรดังกล่าวยุติลง นักลงทุนก็จะหันมาให้ความสนใจกับสินค้าโภคภัณฑ์
          สินค้าโภคภัณฑ์ที่วัดตามดัชนี Standard & Poor's GSCI ของวัตถุดิบ 24 ประเภท อยู่ในช่วงสถานการณ์ที่ซบเซา หลังจากที่ตกลงถึง 22% จากระดับสูงเป็นประวัติการณ์เมื่อวันที่ 3 ก.ค. จีนซึ่งเป็นประเทศผู้ใช้งานถ่านหิน สินแร่เหล็ก และโลหะภาคอุตสาหกรรม ขยายตัวในระดับที่ชะลอตัวมากที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปี 2548 โดยเรือขนส่งน้ำมันขนาดใหญ่ที่บริษัท ฟรอนท์ไลน์ ซึ่งมีเรืออยู่ในครอบครองจำนวนมากที่สุดนั้น ก็ยังซื้อขายอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าอัตราค่าเช่าที่คุ้มทุนอยู่อีก
          ดัชนีบีดีไออยู่ในระดับสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 11,793 เมื่อวันที่ 20 พ.ค. และร่วงลง 40% นับตั้งแต่นั้น นักวิเคราะห์ของโลกด์แมน แซคส์คาดว่า ในปีนี้ ดัชนีจะอยู่ที่ระดับเฉลี่ยที่ 8,498 และที่ 5,099 ในปีหน้า และที่ 2,719 ในปี 2553 
          อุตสาหกรรมการผลิตของจีนเมื่อเดือนก.ค.ชะลอตัวลงจากระดับมิ.ย. ซึ่งถือเป็นสถิติที่ปรับตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบอย่างน้อย 3 ปี โรงเหล็กและโรงงานต่างๆต้องปิดทำการชั่วคราวในช่วงที่จีนจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกปักกิ่งที่จะสิ้นสุดลงในวันที่ 24 ส.ค.นี้ เพื่อลดมลภาวะในพื้นที่จัดการแข่งขัน ดังนั้นคาดว่า เศรษฐกิจโลกใกล้จะเข้าสู่ภาวะถดถอยเต็มทีแล้วในปีหน้า บลูมเบิร์กรายงาน