อินโดนีเซียเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาส 2 ปีนี้ขยายตัว 6.4% สูงกว่าคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่คาดว่าจะขยายตัว 6.1% เนื่องจากความต้องการถ่านหิน น้ำมันปาล์ม และยางผลักดันยอดการส่งออกพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ โดย GDP ไตรมาสแรกขยายตัว 6.3%
ศูนย์สถิติกลางอินโดนีเซียเปิดเผยว่า การส่งออกของอินโดนีเซียในเดือนมิ.ย.อยู่ที่ 1.29 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่การส่งออกสินค้าไปยังอินเดียและจีนที่เพิ่มขึ้นช่วยชดเชยความต้องการสินค้าจากสหรัฐที่อ่อนตัวลง ยอดขายในต่างประเทศที่แข็งแกร่งกว่าเดิมนั้น จะทำให้ธนาคารกลางอินโดนีเซียขึ้นดอกเบี้ยเพื่อรับมือกับเงินเฟ้อ
ปรากฤติ โซฟัท นักเศรษฐศาสตร์ของเอชเอสบีซี โฮลดิ้งส์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา การขยายตัวทางเศรษฐกิจของอินโดนีเซียอยู่เหนือแนวโน้ม และยังกระพือแรงกดดันด้านเงินเฟ้อให้เพิ่มขึ้น คาดว่าธนาคารกลางอินโดนีเซียจะขึ้นดอกเบี้ยเป็น 10.5% ในปีหน้า และการขยายตัวทางเศรษฐกิจจะชะลอตัวลงแตะ 4.9% ซึ่งถือเป็นอัตราการขยายตัวที่อ่อนตัวลงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2546 และต่ำกว่าการคาดการณ์ของรัฐบาลที่ 6.2%
เมื่อวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา ธนาคารกลางอินโดนีเซียได้ขึ้นดอกเบี้ยเป็น 9% ดัชนีราคาสินค้าผู้บริโภคพุ่งขึ้น 11.9% ในเดือนก.ค.จากระดับปีที่แล้ว ส่วนยอดเงินกู้ขยายตัวขึ้น 32% เงินเฟ้อเพิ่มแตะ 34.7% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งถือเป็นสถิติการขยายตัวที่เร็วที่สุดในรอบ 9 ปี
ฮาร์ตาดี ซาร์โวโน รองผู้ว่าการธนาคารกลางอินโดนีเซีย กล่าวว่า อินโดนีเซียโชคดีที่ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เราอยู่ได้กับอัตราการขยายตัวที่ 6% แต่เราไม่สามารถอยู่ได้กับเงินเฟ้อที่สูงกว่า 10% บลูมเบิร์กรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--