สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนรายงานว่า อัตราการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์และภาคโรงงานของจีนขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นผลมาจากการเร่งก่อสร้างอาคารพาณิชย์และที่อยู่อาศัย หลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงที่มณฑลเสฉวนเมื่อเดือนพ.ค.และเหตุพายุหิมะกระหน่ำรุนแรงในเดือนม.ค.และก.พ.
ทั้งนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติระบุว่า ตัวเลขการลงทุนด้านสินทรัพย์คงที่ในเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 27.3% แตะระดับ 7.22 ล้านล้านหยวน (1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากปีที่แล้ว หลังจากพุ่งขึ้น 26.8% ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ โดยตัวเลขการลงทุนเดือนก.ค.อยู่ในระดับสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลล์บลูมเบิร์กคาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 26.6%
เกลน มากีร์ นักวิเคราะห์จากธนาคารโซซิเอเต เจนเนอเรล ในฮ่องกง กล่าวว่า การที่รัฐบาลทุ่มงบประมาณใช้จ่ายมากขึ้นอาจเป็นปัจจัยสนับสนุนอัตราการขยายตัวของจีนในยามที่จีนต้องเผชิญกับยอดส่งออกที่ซบเซาลง โดยจีนได้ผ่อนคลายโควต้าการปล่อยกู้และสกัดการแข็งค่าของเงินหยวน และยังคงใช้มาตรการควบคุมศรษฐกิจไม่ให้ขยายตัวร้อนแรงเกินไป
"รัฐบาลจีนได้จัดสรรงบประมาณการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เราคาดว่าอัตราการลงทุนในจีนจะขยายตัว 30% ก่อนสิ้นปีนี้" มากีร์กล่าว
รัฐบาลจีนกำลังเริ่มบูรณะซ่อมแซมและสร้างถนนหนทาง เสาไฟฟ้า โรงงาน และอาคารบ้านเรือน หลังจากเกิดพายุหิมะพัดถล่มรุนแรงสุดในรอบหลายสิบปี และหลังจากเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงในมณฑลเสฉวน ซึ่งคร่าชีวิตประชาชนกว่า 69,000 คน นอกจากนี้ รัฐบาลจีนยังวางแผนที่จะทุ่มงบประมาณใช้จ่ายในการก่อสร้างสาธารณูปโภคด้านการขนส่งมูลค่า 3.8 ล้านล้านหยวน ซึ่งเป็นแผนการระยะ 5 ปีที่จะสิ้นสุดในปีพ.ศ.2553 สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--