นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง มองว่า อัตราเงินเฟ้อของไทยจะลดลงอย่างชัดเจนในช่วงเดือน ต.ค.51 หลังจากราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับลดลงอย่างรวดเร็วในขณะนี้ เนื่องจากผลของปัจจัยราคาน้ำม้นยังใช้เวลาอีกระยะหนึ่งกว่าจะส่งผ่านไปสู่เงินเฟ้อ ดังนั้น อัตราเงินเฟ้อในเดือน ส.ค.แม้จะลดลงบ้าง แต่ก็ยังน่าจะใกล้เคียงกับเดือน ก.ค.ที่อยู่ในระดับ 9.2% และจะทยอยลดลงอีกเล็กน้อยในเดือน ก.ย.
จากการหารือร่วมกับหน่วยงานด้านเศรษฐกิจเมื่อวานนี้ เห็นพ้องกันว่า แรงกดดันจากราคาน้ำมันเริ่มลดลงแล้ว ก็น่าจะทำให้อัตราเร่งของเงินเฟ้อเริ่มผ่อนคลายลงในช่วงครึ่งปีหลัง หากราคาน้ำมันยังลดลงต่อเนื่อง ก็น่าจะเห็นอัตราเงินเฟ้อลดลงชัดเจนในไตรมาส 4/51 เพราะผลของราคาน้ำมันที่ลดลงยังต้องใช้เวลา 1-2 เดือนจึงจะเห็นเงินเฟ้อลดลงตาม
"ในเดือนก.ค. เงินเฟ้ออยู่ที่ 9.2% เป็นผลจากราคาน้ำมันก่อนหน้านี้อยู่ในระดับสูง ส่วนในเดือนส.ค.อาจจะลดลงได้ไม่มาก ยังใกล้เคียงเดือนก.ค.อยู่ เพราะราคาน้ำมันที่ปรับลดลงจะต้องใช้เวลา 1-2 เดือน ดังนั้นจะเห็นเงินเฟ้อลดลงชัดเจนในไตรมาส 4 ตั้งแต่เดือนต.ค.เป็นต้นไป"นพ.สุรพงษ์ กล่าว
สำหรับการดำเนินนโยบายการเงิน โดยเฉพาะการกำหนดทิศทางอัตราดอกเบี้ย นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ไม่ขอให้ความเห็น เพราะเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)จะตัดสินใจ
ส่วนกรณีที่มอบหมายให้หน่วยงานหลักด้านเศรษฐกิจร่วมหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)เพื่อกำหนดเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อนั้น นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ธปท.ควรมีโอกาสรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อให้มีข้อมูลรอบด้าน แต่สุดท้ายแล้วอำนาจการตัดสินใจกำหนดกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อก็คงอยู่ที่ ธปท.ละกนง.
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่เห็นว่าจำเป็นต้องทบทวนเป้าหมายเป็นวาระเร่งด่วน และทุกอย่างขอให้เป็นไปตามกำหนดกรอบเวลาปกติ
นพ.สุรพงษ์ ยังกล่าวว่า ด้านภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปีนี้ที่หลายหน่วยงานได้ประเมินว่าเศรษฐกิจจะเติบโต 5.6% เป็นการประเมินโดยยังไม่รวมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่น ๆ ที่รัฐบาลกำลังจะทยอยประกาศออกมา หากมาตรการลงไปแล้ว ก็น่าจะทำให้เศรษฐกิจเติบโตขึ้นเป็น 6% ตามเป้าหมาย แม้บางหน่วยจะคาดการณ์ไว้ที่ 4.8-5.8% และบางหน่วยมองที่ 5-6%
--อินโฟเควสท์ โดย คลฦ/ศศิธร/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--