นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ในเดือนก.ค.51 มียอดขายรถยนต์ทั้งระบบ 44,772 คัน ลดลง 12.5 % แบ่งออกเป็นรถยนต์นั่ง 19,280 คัน เพิ่มขึ้น 27.5% รถเพื่อการพาณิชย์ 25,492 คัน ลดลง 29.3% รวมทั้งรถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ จำนวน 21,290 คัน ลดลง 32.8%
ส่วนยอดขายรถยนต์สะสมในช่วง 7 เดือนแรกของปี 51(ม.ค.-ก.ค.) มีปริมาณทั้งสิ้น 366,247 คัน เพิ่มขึ้น 6.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยแบ่งเป็น รถยนต์นั่ง 129,699 คัน เพิ่มขึ้น 31.7% รถเพื่อการพาณิชย์ 236,548 คัน ลดลง 3.5% รวมทั้งรถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซ็กเมนท์นี้จำนวน 203,178 คัน ลดลง 5.5%
นายวุฒิกร กล่าว่า ปัจจัยลบที่มีผลต่อยอดขายรถยนต์ในเดือน ก.ค.ให้ลดลง มาจากราคาน้ำมันดีเซลที่สูงขึ้นถึง 44 บาท/ลิตร ซึ่งส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อในเดือนกรกฎาคมสูงถึง 9.2% สูงสุดในรอบ 10 ปี ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงเหลือ 7.5 ส่งผลให้ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ปรับตัวลดลง 29.3% รวมทั้งรถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซ็กเมนท์นี้ลดลง 32.8% ในขณะที่ตลาดรถยนต์นั่งซึ่งได้แรงหนุนจากมาตรการต่างๆ จากภาครัฐส่งผลให้มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 27.5%
สำหรับแนวโน้มตลาดรถยนต์ในเดือน ส.ค.51 คาดว่าปริมาณการขายมีแนวโน้มดีขึ้น แม้ว่าตามสถิติการขายแล้ว เดือนนี้จะมียอดขายน้อยเป็นอันดับ 3 ของปี ทั้งนี้ผลจากราคาน้ำมันที่ปรับลดลง โดยเฉพาะน้ำมันดีเซลที่มีการปรับลดลงถึง 6 ครั้งตั้งแต่ต้นเดือนส.ค. และการนำเสนอบทความจากสื่อต่างๆ เกี่ยวกับคุณสมบัติเครื่องยนต์ดีเซลกับการบรรทุกเพื่อให้ประชาชนมีความเข้าใจที่ถูกต้องจะส่งผลดีต่อตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ เมื่อรวมกับตลาดรถยนต์นั่งที่เติบโตต่อเนื่องจะส่งผลให้ตลาดรถยนต์เดือนส.ค.มีแนวโน้มตามคาด
--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--