นายสมชัย สัจจพงษ์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในช่วง 10 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2551 รัฐบาลขาดดุลเงินสดทั้งสิ้น 173,307 ล้านบาท ต่ำกว่าการขาดดุลในช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ร้อยละ 28.0 โดยเป็นการขาดดุลเงินงบประมาณ 118,767 ล้านบาท และการขาดดุลเงินนอกงบประมาณ 54,540 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี การขาดดุลดังกล่าวเป็นไปตามเป้าหมายการดำเนินนโยบายการคลังแบบขาดดุลของรัฐบาล ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตในระดับร้อยละ 5.0-6.0 ในปี 2551
สำหรับฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสด ในเดือนกรกฎาคม 2551 รัฐบาลขาดดุลเงินสดเป็นจำนวนทั้งสิ้น 67,502 ล้านบาท
โดยรัฐบาลมีรายได้นำส่งคลัง 101,288 ล้านบาท สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 16,306 ล้านบาท หรือร้อยละ 19.2 ทั้งนี้นอกจากรัฐบาลจะจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม อากรขาเข้า และภาษีเงินได้นิติบุคคลได้เพิ่มขึ้นแล้ว ในปีที่ผ่านมาได้มีการจัดสรรภาษีมูลค่าเพิ่มตาม พรบ. กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น งวดที่ 4 ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) ในขณะที่ปีนี้จะจัดสรรในเดือนสิงหาคม 2551
การเบิกจ่ายเงินงบประมาณของรัฐบาลมีจำนวนทั้งสิ้น 138,812 ล้านบาท ต่ำกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 7,743 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 5.3 เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาได้มีการเร่งการเบิกจ่ายงบประมาณอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของงบเงินอุดหนุนให้แก่ อปท.และกองทุนและเงินทุนหมุนเวียนต่าง ๆ
จากรายได้นำส่งคลังและการเบิกจ่ายเงินงบประมาณของรัฐบาลข้างต้น ส่งผลให้ดุลเงินงบประมาณในเดือนกรกฎาคม 2551 ขาดดุล 37,524 ล้านบาท เมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณที่ขาดดุล 29,978 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการไถ่ถอนตั๋วเงินคลัง ทำให้ดุลเงินสดขาดดุลจำนวน 67,502 ล้านบาท โดยในเดือนนี้รัฐบาลได้กู้เงินด้วยการออกพันธบัตรจำนวน 5,809 ล้านบาท เพื่อชดเชยการขาดดุลดังกล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย คลฦ/รัชดา/กษมาพร โทร.0-2253-5050 อีเมล์: kasamarporn@infoquest.co.th--