เงินปอนด์อ่อนค่าลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 11 เมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐส่งผลให้สกุลเงินปอนด์อ่อนค่ายาวนานที่สุดในรอบ 37 ปี จากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจจะกระตุ้นให้ธนาคารกลางอังกฤษปรับลดอัตราดอกเบี้ย
เงินปอนด์ของอังกฤษร่วงลงเป็นสัปดาห์ที่ 4 ซึ่งเป็นระดับที่ดิ่งลงหนักสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. หลังจากที่นายเมอร์วิน คิง ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษกล่าวว่า เศรษฐกิจยังคงซบเซาเนื่องจากอัตราว่างงานเดือนก.ค.พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบเกือบ 16 ปี นอกจากนี้ อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจยังคงได้รับผลกระทบเนื่องจากการท่องเที่ยวที่ทรุดตัวลง ขณะที่รายได้จากการจัดเก็บภาษีลดลง
"เงินปอนด์เริ่มอ่อนค่าลงตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์นี้ ขณะที่อัตราผลตอบแทนยิ่งลดต่ำลงเรื่อยๆ เนื่องจากบรรยากาศการซื้อสินทรัพย์ในรูปสกุลเงินปอนด์ซบเซาและเศรษฐกิจกำลังอ่อนแรงลง" ทอม ฟิทซ์แพทริก นักวิเคราะห์จากบริษัทซิตี้กรุ๊ป โกลบอล มาร์เก็ตส์ อิงค์กล่าว
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 06.46 น. ตามเวลาในกรุงลอนดอน เงินปอนด์อ่อนค่าลง 0.3% แตะที่ 1.8643 ดอลลาร์ต่อปอนด์จากระดับ 1.8698 ดอลลาร์ต่อปอนด์เมื่อวานนี้ ซึ่งเงินปอนด์อ่อนค่าลงต่อเนื่องนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2514 โดยในสัปดาห์นี้ เงินปอนด์อ่อนค่าลงไปแล้ว 3% และดิ่งลง 6% นับตั้งแต่วันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ จากสถานการณ์ของเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงยิ่งตอกย้ำความวิตกกังวลต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ทรุดตัวลงว่าจะยิ่งผลักดันให้เศรษฐกิจยุโรปเข้าสู่ภาวะถดถอย ทั้งนี้ ราคาบ้านในเดือนก.ค.ที่ดิ่งร่วงลงทำให้ความเคลื่อนไหวในตลาดที่อยู่อาศัยเข่าสู่ภาวะชะงักงัน ขณะที่มีกระแสคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสแรกของปี 2552 จะขยายตัวประมาณ 0.1% ต่อปีเมื่อเทียบกับที่คาดการณ์ในก่อนหน้านี้ที่ 1%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--