สกุลเงินเยนของญี่ปุ่นทะยานแข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า รัฐบาลสหรัฐจะถูกกดดันให้ยื่นมือเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของแฟนนี เม และเฟรดดี แมค ซึ่งเป็นหน่วยงานซึ่งรัฐบาลสหรัฐให้การสนับสนุน (GSE) และมีหน้าที่จัดหาสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยให้แก่ผู้ซื้อบ้าน ซึ่งกระแสคาดการณ์ดังกล่าวกระตุ้นให้เทรดเดอร์ต่างพากันเทขายสกุลเงินที่ให้อัตราผลตอบแทนสูง
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 10.40 น. ตามเวลาโตเกียว เงินเยนเทรดที่ระดับ 161.27 ต่อยูโร โดยก่อนหน้านี้เงินยูโรทะยานแข็งค่าขึ้นสูงสุดที่ระดับ 161.01 ต่อยูโรเมื่อเทียบกับที่ 161.82 ต่อยูโรที่ตลาดนิวยอร์กคืนวานนี้
นอกจากนี้ เงินเยนยังแข็งค่าขึ้นแตะที่ 109.84 ต่อดอลลาร์ จากระดับ 110.13 ต่อดอลลาร์ หลังจากที่นิตยสารบาร์รอนรายงานว่า แฟนนี เม และเฟรดดี แมค จะไม่สามารถระดมทุนเพื่อชดเชยภาวะขาดทุนจากการปล่อยสินเชื่อได้
โทรุ อูเมโมโตะ นักวิเคาะห์จากบาร์เคลย์ส แคปิตอล อิงค์ กล่าวว่า "การที่รัฐบาลสหรัฐอัดฉีดเงินทุนให้กับแฟนนี เม และเฟรดดี แมคจะเป็นการกำจัดผู้ถือหุ้นสามัญของบริษัท 2 แห่ง ซึ่งตลาดเงินจะมีปฏิกิริยาต่อปัจจัยลบที่เข้ามากดดันตลาดมากขึ้น ขณะที่เงินเยนจะมีแรงซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมากเนื่องจากนักลงทุนพากันลดการถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง"
ทั้งนี้ อูเมโมโตะคาดว่า เงินเยนอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 105-110 ต่อดอลลาร์ในช่วงไตรมาสนี้
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--