เยอรมนีเผยว่าอัตราเงินเฟ้อจากราคาผู้ผลิตประจำเดือนก.ค.มีการขยายตัวรวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2524 ส่งผลให้ธนาคารกลางยุโรปอาจตรึงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับสูงสุดในรอบ 7 ปีต่อไปแม้ว่าจะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวก็ตาม
สำนักงานสถิติแห่งชาติรายงานว่า ราคาสินค้าตั้งแต่กระดาษหนังสือพิมพ์ไปจนถึงพลาสติกปรับตัวสูงขึ้นกว่า 8.9% ในเดือนก.ค.เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว หลังจากที่ขยายตัว 6.7% ในเดือนมิ.ย. โดยก่อนหน้านี้นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะมีการขยายตัว 7.5%
ราคาพลังงานที่พุ่งสูงส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น กดดันให้ผู้ผลิตต้องแบ่งภาระดังกล่าวไปยังผู้บริโภค และแม้ว่าราคาน้ำมันจะลดลงกว่า 21% จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา แต่ธนาคารกลางยุโรปยังตรึงดอกเบี้ยไว้ที่ 4.25% ในเดือนนี้ เนื่องจากเกรงว่าหากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้นก่อนหน้านี้จะทำให้ผู้บริโภคเรียกร้องค่าแรงที่สูงขึ้น และจะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นในที่สุด
"อัตราเงินเฟ้อจากราคาผู้ผลิตไม่น่าจะพุ่งสูงไปมากกว่านี้" นิค แม็ทธิวส์ นักเศรษฐศาสตร์จากบาร์คเลย์ส แคปิตอล ในลอนดอน กล่าว "อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางยุโรปน่าจะยังตรึงดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม เนื่องจากยังเกรงว่าราคาสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้นก่อนนี้จะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค"
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นกว่า 60% จากปีที่แล้ว และแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 147.27 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา ในขณะเดียวกันอัตราเงินเฟ้อของเยอรมนีก็ทะยานแตะ 3.5% ในเดือนก.ค. ซึ่งถือเป็นการขยายตัวเร็วสุดในรอบ 12 ปี ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภคในยุโรปก็ขยายตัว 4% ซึ่งมากสุดนับตั้งแต่ปี 2535 สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--