น.ส.วีรินทร์ทิรา นาทองบ่อจรัส รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติอนุมัติจัดตั้งคณะกรรมการศึกษาและพัฒนาะระบบค้าปลีกค้าส่งตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้จะมีนายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน เป็นประธาน โดยทำหน้าที่วิเคราะห์ปัญหาและผลกระทบต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการดำเนินธุรกิจค้าปลีกค้าส่งทั้งระบบ
รวมถึงกำหนดแนวทางในการแก้ไขปัญหาและรายงานผลกระทบที่จะเกิดขึ้น เพื่อรายงานต่อนายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.พาณิชย์ ให้ความเห็นชอบก่อนยกร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง รวมถึงการพิจารณาร่างกฎหมายดังกลาวให้มีความสมดุล ถูกต้อง และเหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจ
"ปัญหาของธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง ก็คือการขยายสาขาอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ซึ่งในปี 48 มีสาขาทั้งหมด 3,781 สาขา ขณะที่ล่าสุดเดือนกรกฎาคม 51 มีสาขาถึง 6,571 สาขา เพิ่มขึ้นถึง 75.30%" รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุ
โดยมูลค่าการตลาดของธุรกิจค้าปลีกค้าส่งรายใหญ่ 4 รายในปี 50 มีมูลค่ารวมกันทั้งสิ้น 2.73 แสนล้านบาท จากภาพรวมธุรกิจค้าปลีกค้าส่งที่มีมูลค่า 1.2 ล้านล้านบาท คิดเป็น 14% ของจีดีพี และมีมูลค่าเป็นอันดับสองรองจากภาคอุตสาหกรรม โดยมีการจ้างงานในภาคธุรกิจค้าปลีกค้าส่งถึง 6 ล้านคน คิดเป็น 16% ของการจ้างงานทั่วประเทศ ดังนั้นภาคธุรกิจค้าปลีกค้าส่งจึงถือว่ามีบทบาทที่สำคัญอย่างมากในการสร้างการเจริญเติบโต และการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงการกระจายรายได้
--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/ธนวัฏ โทร.0-2253-5050 ต่อ 325 อีเมล์: tanawat@infoquest.co.th--