ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผยว่า การเคลื่อนไหวค่าเงินบาท ในวันนี้ ได้อ่อนค่าลงหลุดระดับ 34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และแตะระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน ที่ระดับ 34.15 บาทต่อดอลลาร์ฯ อ่อนค่าลงร้อยละ 1.4 เมื่อเทียบกับปลายปี 2550 ที่เงินบาทอยู่ที่ 33.68 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากถูกกดดันจากแรงซื้อเงินดอลลาร์ฯ อย่างหนักและต่อเนื่องของธนาคารต่างชาติในประเทศและผู้นำเข้า เนื่องจากเป็นช่วงใกล้สิ้นเดือน แต่การอ่อนค่าของเงินบาทเป็นไปในทิศทางเดียวกับค่าเงินสกุลอื่นในภูมิภาค หลังจากความเชื่อมั่นต่อค่าเงินดอลลาร์ฯ ฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งท่ามกลางความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอ
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า ในระยะสั้นเงินบาทยังคงมีแนวโน้มอ่อนค่าลงต่อเนื่องโดยมีแนวรับ ที่ระดับ 34.20-34.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยยังมีปัจจัยกดดันเงินบาทต่อเนื่อง ทั้งแนวโน้มการอ่อนค่าของเงินสกุลหลักเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ฯ หลัง เศรษฐกิจประเทศหลักๆ ทั้งยุโรปและญี่ปุ่น เริ่มมีสัญญาณชะลอตัว จึงอาจทำให้ธนาคารกลางต้องดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย
สำหรับนัยต่อเศรษฐกิจไทยนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมีมุมมองว่า เงินบาทที่อ่อนค่าอาจสามารถช่วยบรรเทาผลกระทบด้านลบต่อภาคส่งออกของไทยที่กำลังเผชิญความเสี่ยงจากการที่เศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าหลักของไทยหลายประเทศ อาทิ อาเซียน ยูโรโซน ญีปุ่น และสหรัฐฯ กำลังตกอยู่ในภาวะชะลอตัว ในขณะที่ ผลของแรงกดดันต่อระดับราคาในประเทศอาจไม่สูงมากนัก เนื่องจากการอ่อนค่าลงของเงินบาท เกิดขึ้นในจังหวะเดียวกันกับแนวโน้มการปรับฐานครั้งใหญ่ของตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะน้ำมันในตลาดโลก
ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจเอเซียที่ถูกมองว่าอาจจะชะลอตัวลงในครึ่งปีหลัง จะทำให้นักลงทุนทั่วโลกหันไปลงทุนประเทศอื่นที่ให้ ผลตอบแทนสูงกว่า โดยเฉพาะสถาบันการเงินในสหรัฐ ขณะที่ปัจจัยการเมืองในประเทศที่ยังยืดเยื้อ ยังสร้างแรงกดดันต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน ทั้งนี้คงต้องจับตาการเคลื่อนไหวของเงินบาทต่อไปอย่างใกล้ชิด เพราะการเคลื่อนไหวของเงินบาทดังกล่าวอาจมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาดเงิน-ตลาดทุน นอกเหนือไปจากผลกระทบที่มีต่อผู้ส่งออก-นำเข้าสินค้า
--อินโฟเควสท์ โดย จารุวรรณ ไหมทอง/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--