ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ได้ปรับลดแนวโน้มภาคการส่งออก การใช้จ่ายผู้บริโภค และตัวเลขผลผลิตในวันนี้ หลังจากที่ได้ปรับลดคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจโดยรวมไปแล้วเมื่อวานนี้ โดยพิจารณาจากภาวะที่ราคาวัตถุดิบและพลังงานปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่การส่งออกปรับตัวลดลง
รายงานเศรษฐกิจประจำเดือนส.ค.ของบีโอเจระบุว่า "การขยายตัวของภาคธุรกิจส่งออกอาจเผชิญภาวะซบเซาสักระยะ เนื่องจากเศรษฐกิจในหลายประเทศอยู่ในภาวะชะลอตัว" โดยรายงานดังกล่าวระบุว่า ปัจจัยหนุนที่กระตุ้นการส่งออกปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก.ค.ที่ผ่านมา
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า การปรับลดคาดการณ์การส่งออกในรายงานการประเมินเศรษฐกิจครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่รัฐบาลเปิดเผยว่า การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นที่มีมายาวนานหลังผ่านช่วงสงครามโลกครั้งที่สองนั้นได้ดำเนินมาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว และขณะนี้ญี่ปุ่นเริ่มที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอย โดยชี้ว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นเพิ่งจะปรากฏให้เห็นถึงความอ่อนแอเมื่อไม่นานมานี้
เมื่อวานนี้ ที่ประชุมบีโอเจได้มีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับเดิมที่ 0.5% เป็นเดือนที่ 21 ติดต่อกัน ซึ่งสอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้
นอกจากนี้ บีโอเจยังได้ปรับลดแนวโน้มการใช้จ่ายภาคเอกชนลง เนื่องจากอัตราการเติบโตของรายได้อยู่ในระดับต่ำ ขณะที่ราคาน้ำมันและอาหารพุ่งสูงขึ้น พร้อมทั้งชี้ว่า อุปสงค์ภาคเอกชนภายในประเทศยังคงซบเซา เนื่องจากบริษัทเอกชนมีรายได้และมีตัวเลขผลกำไรที่ลดลง ขณะที่วิกฤติราคาสินค้าโภคภัณฑ์แพงได้กระตุ้นให้อัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น
ทั้งนี้ ราคาผู้บริโภคพื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาอาหารสดและพลังงานพุ่งขึ้นแตะระดับ 2% และคาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะปรับตัวสูงขึ้นอีกในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--