เงินหยวนของจีนแข็งค่าขึ้นสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์หลังจากนายเฮนรี่ พอลสัน รัฐมนตรีคลังสหรัฐเรียกร้องให้จีนใช้นโยบายปล่อยเงินหยวนแข็งค่าเพื่อควบคุมปัญหาเงินเฟ้อและสกัดกั้นมิให้สภาคองเกรสกำหนดบทลงโทษทางการค้ากับจีน
ค่าเงินหยวนยังเดินหน้าแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่สอง ขณะที่เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายพยายามที่จะควบคุมยอดเกินดุลการค้าและบรรเทาความร้อนแรงของเงินเฟ้อ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่าคำกล่าวของนายเฮนรี่ พอลสันที่มีขึ้นเมื่อวานนี้ว่า ข้อเสนอของสหรัฐที่ต้องการกำหนดบทลงโทษต่อจีนกรณีควบคุมการแข็งค่าของเงินหยวนนั้นอาจจุดชนวนให้เกิดสงครามทางการค้าที่ไม่เป็นผลดีต่อทั้งสองฝ่าย
ฌอน คาลโลว์ นักวิเคราะห์จากเวสท์แพค แบงกิ้ง คอร์ป กล่าวว่า "ผมเห็นด้วยกับพอลสันที่มองว่าเงินหยวนของจีนยังไม่แข็งค่าขึ้นมากอย่างที่ควรจะเป็นและมองว่าจีนใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินมากเกินไป"
สำนักงานศุลกากรจีนเปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ยอดเกินดุลการค้าของจีนพุ่งสูงขึ้น 4% จากปีก่อนหน้านี้แตะที่ 2.53 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน และตัวเลขดังกล่าวจะยังทรงตัวในระดับสูงต่อไปเนื่องจากความต้องการสินค้าในตลาดเกิดใหม่หลายแห่งสามารถชดเชยยอดส่งออกไปยังสหรัฐที่ชะลอตัวลงได้ ขณะที่เงินหยวนที่แข็งค่าขึ้นจะทำให้การส่งออกของจีนมีราคาแพงขณะที่จีนจ่ายเงินในการนำเข้าสินค้าได้ถูกลง
ทั้งนี้ นับตั้งแต่เดือนก.ค.เป็นต้นมา เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของจีนได้ให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องมากกว่าที่จะชะลอความร้อนแรงของเงินเฟ้อ โดยเศรษฐกิจเริ่มชะลอตัวลงเป็นเวลา 4 ไตรมาสขณะที่ผลผลิตอุตสาหกรรมในเดือนที่ผ่านมาขยายตัวต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2550
"ตลาดจะยังเห็นถึงตัวเลขเงินเฟ้อและการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงในไตรมาสนี้" นี ชูกัง นักวิเคราะห์จาก Industrial Bank Co.ในเซี่ยงไฮ้ "ธนาคารจะยังไม่ประกาศใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินเพิ่มมากขึ้น"
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--