นายอาคม เติมวิทยาไพศิษฐ์ รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) เปิดเผยว่า บอร์ดสภาพัฒน์เห็นชอบกรอบวงเงินงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจประจำปีงบประมาณ 52 เป็นงบลงทุนจากรัฐวิสาหกิจ 53 แห่ง ในสังกัด 17 กระทรวง เป็นวงเงินรวม 473,030 ล้านบาท คิดเป็น 5% ของ GDP
สำหรับกรอบวงเงินดำเนินการปี 52 แบ่งเป็น งบโครงการและงบลงทุนปกติ 410,477 ล้านบาท, งบโครงการใหม่ 57,528 ล้านบาท และงบสำรองเพื่อเพิ่มเติมระหว่างปี 52 จำนวน 5,025 ล้านบาท
ทั้งนี้ กรอบวงเงินในปี 52 จะลงลงจากปี 51 โดยลดลง 20% (57,877 ล้านบาท) จากปี 51 (วงเงิน 289,759 ล้านบาท) ขณะเดียวกันการลดวงเงินเบิกจ่ายลง เนื่องจากบางโครงการยังไม่มีรายละเอียด ยังไม่ได้เสนอมาให้บอร์ดสภาพัฒน์ฯ พิจารณา เช่น โครงการ 3 จีของทีโอทีงบประมาณจำนวน 2.9 หมื่นล้านบาท โครงการซื้อเครื่องบินของ บมจ.การบินไทย(THAI) ฝูงใหม่ 3.8 หมื่นล้านบาท และโครงการรถไฟความเร็วสูงของ รฟท. เป็นต้น
นายอาคม แสดงความเป็นห่วงต่อการพัฒนาและปรับโครงสร้างรัฐวิสาหกิจที่ขาดทุน โดยเฉพาะหนี้ที่จะต้องดำเนินตามโครงสร้างการสะสางหนี้ เช่น การปรับโครงสร้าง ขสมก., แผนการฟื้นฟู รฟท. และการเคหะแห่งชาติ รวมไปถึงรัฐวิสาหกิจที่ขาดทุนแต่ขนาดไม่ใหญ่
พร้อมกันนี้ ยังเป็นห่วงการดำเนินการของ THAI ในภาวะน้ำมันเชื้อเพลิงราคาสูงทำให้ขาดทุนใน 1-2 เดือนแม้จะมีกำไรก็ควรที่จะปรับปรุงองค์กรเพื่อตอบสนองปัจจัยเสี่ยง ขณะที่แผนการปรับปรุงศักยภาพองค์กรมีการตั้งคำถามในเรื่องของงบประมาณที่มีการใช้ค่อนข้างน้อยเพียง 0.5% ของงบลงทุน นอกจากนี้ยังเป็นห่วงเรื่องของความรับผิดชอบของรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ที่มีต่อสังคมด้วย
--อินโฟเควสท์ โดย รบฦ3/กษมาพร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--