ธนาคารอินดัสเทรียล แอนด์ คอมเมอร์เชียล แบงค์ ออฟ ไชน่า (ไอซีบีซี) สามารถทำกำไรได้สูงเป็นประวัติการณ์ถึง 6.45 หมื่นล้านหยวน หรือ 9.42 พันล้านดอลลาร์ในช่วงครึ่งปีแรก ส่งผลให้ธนาคารกลายเป็นธนาคารที่ทำกำไรสูงที่สุดในโลก โดยไอซีบีซีสามารถทำกำไรสุทธิสูงถึง 57% สูงกว่าคู่แข่งอย่างเอชเอสบีซีที่ทำกำไรได้ 7.72 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่กำไรต่อหุ้นของไอซีบีซีเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 0.19 หยวน
เจียง เจียนฉิง ประธานไอซีบีซี สามารถทำกำไรให้กับไอซีบีซีได้มากกว่า 2 เท่านับตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา เนื่องจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนที่สูงกว่า 10% ช่วยหนุนให้มีการปล่อยเงินกู้แก่ภาคเอกชน รวมทั้งธุรกิจบริการให้กับกลุ่มประชาชนที่ร่ำรวยที่มีจำนวนมากขึ้น นอกจากนี้ การที่ไอซีบีซีสามารถรอดพ้นจากวิกฤตซับไพรม์มาได้เพราะการจำกัดการลงทุนในต่างประเทศก็ถือเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยให้ธนาคารสามารถทำกำไรได้สูงเป็นประวัติการณ์
ยัค เค่ย ลี นักวิเคราะห์ของคอร์ แปซิฟิค-ยามาอิชิ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า ตัวเลขกำไรของไอซีบีซีชี้ให้เห็นถึงอำนาจทางเศรษฐกิจในจีน ซึ่งจะเห็นได้ว่ากำไรของไอซีบีซีสูงกว่าแบงค์ยักษ์ใหญ่ทั่วโลก แต่เราก็ต้องดูกันต่อไปว่าไอซีบีซีจะสามารถประคองความสำเร็จเช่นนี้ต่อไปได้หรือไม่
กำไรของไอซีบีซีสอดคล้องกับการคาดการณ์โดยเฉลี่ยของนักวิเคราะห์ที่บลูมเบิร์กได้สำรวจความคิดเห็นที่ 6.48 หมื่นล้านหยวน โดยไอซีบีซีซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดในโลกในแง่ของมูลตลาด ได้เพิ่มการปล่อยกู้ 7.1% ในช่วงครึ่งปีแรก มูลค่า 4.36 ล้านล้านหยวน ส่วนเอ็นพีแอลอยู่ที่ 2.41% เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ลดลงจากระดับ 2.74% ช่วงสิ้นปี 2550
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--