ลี กา-ชิง มหาเศรษฐีชาวฮ่องกงเปิดเผยว่า ภาวะไร้เสถียรภาพทางเศรษฐกิจที่เป็นผลสืบเนื่องจากวิกฤติซับไพรม์ของสหรัฐและภัยคุกคามด้านเงินเฟ้อจะยังดำเนินต่อไปอีกระยะหนึ่ง แต่เศรษฐกิจจีนจะยังสามารถขยายตัวแข็งแกร่งได้อย่างต่อเนื่อง
ลี มหาเศรษฐีที่ติดทำเนียบเป็นผู้มั่งคั่งที่สุดอันดับ 9 ของโลกจากการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บส์ในปี 2550 ด้วยสินทรัพย์สุทธิในครอบครอง 2.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ กล่าวว่า ควันหลงจากวิกฤตซับไพรม์จะยังไม่จางหายไป
"ไม่มีใครกล้าพูดได้อย่างเต็มปากว่า เมื่อไหร่วิกฤติการณ์เลวร้ายจะสิ้นสุดลง" ลีกล่าว "ธนาคารบางแห่งต้องตั้งสำรองหนี้สูญมากขึ้นในปลายปีนี้ ขณะที่สถานการณ์ในปีนี้ยังไม่ดีขึ้น"
เขากล่าวว่า วิกฤติซับไพรม์ที่เป็นผลจากสถานการณ์เลวร้ายในตลาดสินเชื่อทำให้ธนาคารคุมเข้มมาตรการปล่อยเงินกู้ อีกทั้งยังต้องรับมือกับปัญหาเงินเฟ้อ รวมถึงภาวะขาดทุน ขณะที่หลายประเทศในยุโรปและเอเชียได้รับผลกระทบนี้เช่นเดียวกัน
"จีนจะยังคงมีตัวเลขผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขยายตัวในระดับ 8-10% ในปีนี้และปีหน้า ซึ่งจะทำให้ฮ่องกงได้รับอานิสงส์นี้ด้วย"
อย่างไรก็ดี จากความเคลื่อนไหวในตลาดหุ้นฮ่องกงที่ผันผวนรุนแรงหลังจากที่ดัชนีพุ่งทะยานขึ้น 2.18% เมื่อวานนี้แต่กลับแกว่งตัวลง 2.58% ในวันนี้นั้นได้ทำให้นายลีออกมาเตือนบรรดานักลงทุนในตลาดหุ้นให้ซื้อขายด้วยความระมัดระวัง โดยชี้ว่าตลาดยังมีปัจจัยลบในปีนี้และปีหน้า
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า บริษัทฮัทชิสัน วัมเปา ที่นายลีเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่รายงานผลกำไรช่วงครึ่งปีแรกที่ร่วงลง 63% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา แตะระดับ 1.07 หมื่นล้านดอลลาร์ฮ่องกง (1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--