กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลงเกินคาด โดยเป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 2 จากระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายใหม่ลดลง 13,000 รายจากสัปดาห์ก่อนหน้านี้ แตะที่ระดับ 432,000 รายในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับที่เพิ่มขึ้นแตะ 445,750 รายในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบเกือบ 7 ปี
จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่พุ่งสูงขึ้นเมื่อช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ส่วนหนึ่งเป็นผลจากความพยายามของกระทรวงแรงงานในการยื่นเรื่องการขยายขอบข่ายผลประโยชน์ของผู้ว่างงานให้ยาวนานขึ้น 13 สัปดาห์จนได้รับความเห็นชอบจากสภาคองเกรสส่งผลให้ชาวสหรัฐยื่นเรื่องขอรับสวัสดิการว่างงานกันมากขึ้น
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวประกอบกับการที่ภาคธุรกิจปรับลดการจ้างงานอันเป็นผลจากต้นทุนพลังงานที่พุ่งสูงขึ้นและภาวะตลาดสินเชื่อตึงตัวในยามที่เศรษฐกิจชะลอตัวลงทำให้ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานพุ่งทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 ปีที่ 457,000 รายในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสถิติที่สูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2545 ที่มีผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน 479,000 ราย
ทั้งนี้ เมื่อช่วงที่ผ่านมาบริษัทเอกชนได้ประกาศลดจำนวนพนักงานหลายแห่ง อาทิ ฟอร์ มอเตอร์ โค ที่ปรับลดพนักงานที่โรงงานเครื่องยนต์ 300 ตำแหน่ง โดยกระทรวงแรงงานรายงานเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาว่า นายจ้างได้ปรับลดพนักงาน 51,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ซึ่งส่งผลให้อัตราว่างงานในสหรัฐเพิ่มขึ้นแตะที่ระดับ 5.7%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--