รมว.พาณิชย์ เผยสหภาพยุโรป(อียู) สนใจทำความตกลงเขตการค้าเสรี(เอฟทีเอ)ระดับทวิภาคีกับไทยให้เสร็จเรียบร้อยก่อนการหารือกรอบเอฟทีเออาเซียน-อียูจะได้ข้อสรุป เนื่องจากเห็นว่าน่าจะดำเนินการได้รวดเร็วกว่า อีกทั้งเห็นว่าเศรษฐกิจของไทยมีศักยภาพขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง
"อียูสนใจที่จะทำเอฟทีเอแบบทวิภาคีกับไทยให้เสร็จสิ้นก่อนที่กรอบอาเซียน-อียูจะได้ข้อสรุป" นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.พาณิชย์ กล่าวภายหลังหารือกับนายฟรีดริช แฮมเบอร์เกอร์ เอกอัครราชทูตผู้แทนคณะกรรมาธิการยุโรปประจำประเทศไทย
รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า นายปีเตอร์ แมนเดลสัน ประธานคณะกรรมาธิการค้าอียู จะแวะมาเยือนประเทศไทยเพื่อหารือเรื่องดังกล่าวกับไทยอย่างเป็นทางการในระหว่างที่เดินทางมาประชุมการเจรจากรอบอาเซียน-อียู ครั้งที่ 6 ที่เวียดนาม โดยอียูกำหนดเจรจาเอฟทีเอทวิภาคีกับ 3 ประเทศในอาเซียน ได้แก่ ไทย สิงคโปร์ และบูรไน
ทั้งนี้ ตนเองได้มอบหมายให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศไปตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษาเรื่องนี้ก่อนเพื่อกำหนดท่าที เพราะไทยต้องคำนึงถึงเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 190 ที่กำหนดให้การเจรจาระหว่างประเทศต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา
นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตผู้แทนคณะกรรมาธิการยุโรปประจำประเทศไทยยังได้สอบถามความคืบหน้าการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวกับการลงทุน เช่น พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542, การยกร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง ซึ่งได้ยืนยันว่า กฎหมายของไทยจะไม่มีการมาตรการใดๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการค้าการลงทุน และหากจำเป็นต้องปรับปรุงกฎหมายก็จะยึดหลักความโปร่งใส และทำตามกรอบความตกลง การเปิดเสรีขึ้นอยู่กับการเจรจา และจะไม่ทำให้นักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในไทยได้รับผลกระทบ
ด้านนายฟรีดริช กล่าวว่า ได้ขอให้ไทยผลักดันการเจรจาเอฟทีเออาเซียน-อียูให้แล้วเสร็จตามกำหนดภายใน 2 ปี ซึ่งขณะนี้การเจรจาคืบหน้าในระดับหนึ่งแล้ว และจะมีการเจรจาครั้งต่อไปที่เวียดนามในราวเดือน ต.ค.นี้ ส่วนการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายต่างด้าวนั้น ขณะนี้ทราบว่ารัฐบาลไทยจะเดินหน้าแก้ไขครั้งใหม่ แต่ก็ยืนยันว่าจะยังคงเปิดเสรีการลงทุนต่อไปเช่นกัน
--อินโฟเควสท์ โดย พณฦ/ธนวัฏ/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--