ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า เงินบาทในประเทศ(Onshore)ในสัปดาห์หน้า (25-29 ส.ค.51) อาจมีกรอบการเคลื่อนไหวที่ 33.80-34.10 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยที่ควรจับตา ได้แก่ สัญญาณการเข้าดูแลเสถียรภาพตลาดของธปท. แรงซื้อเงินดอลลาร์ฯ ของผู้นำเข้าและนักลงทุนต่างชาติ และทิศทางของสกุลเงินในภูมิภาค
ตลอดจนความต่อเนื่องของการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ฯ ซึ่งจะขึ้นกับรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญประกอบด้วย ดัชนีราคาบ้านจัดทำโดย S&P/Case-Shiller เดือนมิถุนายน ยอดขายบ้านใหม่-บ้านมือสอง ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน รายได้-การบริโภคส่วนบุคคล และดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคลพื้นฐาน (Core PCE Price Index) เดือนกรกฎาคม ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโก และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ เดือนสิงหาคม ตลอดจนตัวเลข GDP ประจำไตรมาส 2/2551
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทเผชิญแรงเทขายอย่างหนักและร่วงลงทะลุระดับสำคัญทางจิตวิทยาที่ 34.00 เข้าแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 9 เดือนที่ 34.16 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงต้นสัปดาห์ ท่ามกลางความต้องการเงินดอลลาร์ฯ อย่างต่อเนื่องจากธนาคารต่างประเทศในไทยและผู้นำเข้า โดยเฉพาะผู้นำเข้าน้ำมันและทองคำ
นอกจากนี้ การอ่อนค่าของเงินบาทยังเป็นไปตามทิศทางของสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค ขณะที่ ความเชื่อมั่นต่อค่าเงินดอลลาร์ฯ ฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งท่ามกลางความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอ อย่างไรก็ตาม เงินบาทสามารถดีดตัวกลับมาแข็งค่าขึ้นในช่วงต่อมา โดยได้รับแรงหนุนจากแรงเทขายทำกำไรเงินดอลลาร์ฯ ตลอดจนแรงขายเงินดอลลาร์ฯ ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าเป็นการเข้ารักษาเสถียรภาพค่าเงินบาทของธปท.
สำหรับในวันศุกร์ เงินบาทขยับแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องมาอยู่ที่ระดับ 33.90 (ตลาดเอเชีย) เทียบกับระดับ 33.81 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (15 ส.ค.)
--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร โทร.0-2253-5050 ต่อ 353 อีเมล์: saowalak@infoquest.co.th--