ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (22 ส.ค.) หลังจากที่ราคาน้ำมันตกลง ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้น และเงินปอนด์ที่ร่วงลงหลังจากที่อังกฤษเผยอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่หยุดนิ่งในไตรมาส 2 ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มที่เศรษฐกิจอาจจะเข้าสู่ภาวะถดถอย
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าแตะระดับ 109.88 เยน/ดอลลาร์ จากวันพฤหัสบดีที่ระดับ 108.35 เยน/ดอลลาร์
ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงแตะระดับ 1.4802 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.4906 ดอลลาร์/ยูโร และเงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ 1.8539 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.8792 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์อ่อนตัวแตะระดับ 0.7104 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7213 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ และค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนตัวลงแตะระดับ 0.8687 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.8805 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย
การที่วอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีของสหรัฐกล่าวแสดงความคิดเห็นเมื่อวานนี้ถึงค่าเงินดอลลาร์ที่มีแนวโน้มมีเสถียรภาพช่วยหนุนความเชื่อมั่นที่มีต่อเงินดอลลาร์
ก่อนหน้านี้ เงินดอลลาร์ที่ปรับตัวขึ้นต้องอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโรหลังจากที่นายเบน เบอร์นานเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ ที่กล่าวในที่ประชุมจำปีของเฟดว่า เงินดอลลาร์ที่มีเสถียรภาพและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่อ่อนตัวลงอาจจะทำให้เงินเฟ้อชะลอตัวลงในปีนี้และปีหน้า ส่งผลให้นักลงทุนลดการคาดการณ์การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐในปีนี้ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวอาจจะทำให้เงินดอลลาร์มีความน่าสนใจน้อยลงสำหรับนักลงทุน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--