ไมเคิล เลวิทท์ รวม.สาธารณสุขของสหรัฐกล่าวให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า สหรัฐจะจัดตั้งสำนักงานตรวจสอบในเมือง 3 แห่งของจีน เพื่อตรวจสอบมาตรฐานการส่งออกของจีนซึ่งเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก หลังจากเกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของอาหาร ของเล่น และส่วนผสมยาที่ผลิตในจีน
"ทีมเจ้าหน้าที่ฝ่ายตรวจสอบของสหรัฐจำนวน 15 คนได้รับมอบหมายให้ไปประจำการที่กรุงปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางโจว ตั้งแต่เดือนต.ค.เป็นต้นไป หลังจากที่จีนให้คำมั่นสัญญาไว้เมื่อเดือนธ.ค.2550 ว่า จะอนุญาตให้คณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐเข้าไปตั้งสำนักงานในจีนได้ ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อตกลงที่มีขึ้นในการประชุม Strategic Economic Dialogue กับสหรัฐ" รมว.เลวิทท์กล่าว
ทั้งนี้ เลวิทท์กล่าวว่า "ที่ผ่านมานั้นรัฐบาลจีนทำงานอย่างหนักเพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย แต่ผมไม่คิดว่าจีนจะสามารถแก้ปัญหาได้ครบถ้วน และจีนก็ตระหนักดีว่าสินค้า made-in- China ถูกกระทบอย่างหนักจากปัญหาเรื่องคุณภาพ ซึ่งทำให้จีนดำเนินการเชิงรุกทันทีในเรื่องนี้"
กระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของสินค้าจีนที่ปะทุขึ้นตั้งแต่ปีที่แล้วทำให้ที่ประชุม Strategic Economic Dialogue ระหว่างจีนและสหรัฐหันเหความสนใจออกจากเรื่องการผลักดันให้จีนขึ้นค่าเงินหยวน โดยเมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช อัดฉีดงบประมาณมูลค่า 275 ล้านดอลลาร์ให้กับสำนักงานอาหารและยา เพื่อใช้เป็นทุนในการตรวจสอบโรงงานในต่างประเทศที่ผลิตอาหารและยาเพื่อส่งออก
ความกังวลเรื่องความปลอดภัยอาหารส่งผลให้ญี่ปุ่นและสหรัฐลดการนำเข้าสินค้าจากจีนในปีนี้ โดยสินค้าส่งออกปนเปื้อน รวมถึงเกี๊ยวซ่าที่ปนเปื้อนยาฆ่าแมลงในญี่ปุ่น และข่าวที่ว่าคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐสงสัยว่าตัวยาเฮพาริน (heparin) ที่ผลิตในจีนอาจเป็นสาเหตุให้ผู้ป่วยในสหรัฐเสียชีวิต 4 ราย และผู้ใช้อีกกว่า 300 รายเกิดอาการแพ้ยาและมีผลข้างเคียงอื่นๆ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--