สภาพัฒน์ เชื่อศก.เกินเป้า5.7%ได้หลังน้ำมันลด-แนะรัฐเร่งมาตรการให้เกิดผล

          นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวว่า แม้ สศช.ได้ปรับเพิ่มประมาณการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยปีนี้ จาก 4.5-5.5%  เป็น 5.2-5.7%  แต่มองว่า เศรษฐกิจปีนี้มีโอกาสขยายตัวได้เกิน 5.7%ได้  เนื่องจากการปรับลดลงของราคาน้ำมันในตลาดโลก และผลของมาตรการของรัฐบาล เพื่อเร่งการใช้จ่าย ทั้ง 6 มาตรการ 6เดือน การลดภาษีเงินได้ และการเร่งภาคการส่งออก 
          "เศรษฐกิจปีนี้ มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิน 5.7% ได้ โดยครึ่งปีหลัง รัฐบาลจำเป็นต้องเข้าไปดูแลสินค้าเกษตร ที่จะเริ่มมีผลิตผลออกสู่ตลาด รวมถึงการ ส่งเสริมการท่องเที่ยวช่วง ต.ค.-ธ.ค  ซึ่งเป็นช่วงที่ทำรายได้เข้าประเทศอย่างมาก" นายอำพน กล่าว
          นายอำพน กล่าวด้วยว่า สภาพัฒน์ ได้เสนอแนะ 4 แนวทาง เพื่อเร่งการเติบโตทางเศรษฐกิจ คือ 1.การเร่งเบิกจ่ายในไตรมาส 4 ปีงบประมาณ 2551 2. การดูแลสินค้าเกษตร 3.การกำกับดูแล 6 มาตรการ 6เดือนให้เกิดผล และ 4.สร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน 
          และในฐานะประธานกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีความเสียหายของการเพิ่มทุน ธ.ไทยธนาคาร (BT) นายอำพน กล่าวว่า ขณะนี้คณะกรรมการได้เร่งตรวจสอบเอกสารอยู่ ซึ่งความรับผิดชอบของการตรวจสอบของคระกรรมการจะสิ้นสุดเดือน ม.ค.นี้ แต่คาดว่าคณะกรรมการจะสรุปผลได้ ก่อนสิ้นเดือน ก.ย.นี้
          "เรื่อง BTดูเอกสารอยู่  ซึ่งเดือน ม.ค.ก็จะหมดภาระหน้าที่แล้ว แต่คาดว่าการตรวจสอบจะเสร็จก่อน คุณพรรณี (ผอ.สศค.)จะ เกษียณอายุ ตอนนี้สงสัยก็ตรวจสอบไปเรื่อยๆ" นายอำพน กล่าว
          อย่างไรก็ตาม นายอำพน ปฎิเสธให้ความเห็นถึงนโยบายดอกเบี้ย โดยกล่าวเพียงว่า ตนเองถือหมวก 2 ใบ คงให้ความเห็นเรื่องนี้ไม่ได้ แต่ กนง.จะมีการประชุมวันที่ 27 ส.ค.นี้ แต่อย่างไรก็ตามดอกเบี้ยต้องสมดุลกับนโยบายการเงินการคลัง
          "มันผิดมารยาทที่จะให้ความเห็น" นายอำพน ระบุ