โรยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ กรุ๊ป พีแอลซี (RBS) คาดการณ์ว่า สกุลเงินริงกิตมาเลเซียอาจอ่อนค่าลงในปีนี้ต่อเนื่องถึงปีหน้า เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวลดลงได้ฉุดรั้งการขยายตัวของเศรษฐกิจในประเทศ
ซันเจย์ มาเธอร์ นักวิเคราะห์ในสิงคโปร์กล่าวว่า ภาคการส่งออกของมาเลเซียขาดปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันดิบและน้ำมันปาล์มที่ทำให้เศรษฐกิจซบเซา ขณะที่อุปสงค์ชิพ เซมิคอนดักเตอร์จากสหรัฐชะลอตัวลง นอกจากนี้ การที่ธนาคารกลางตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิมและภาวะความผันผวนทางการเมืองอาจเป็นปัจจัยที่กดดันให้เงินริงกิตอ่อนค่าลงด้วยเช่นกัน
"เงินริงกิตเจอแรงกดดันจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวลดลง ขณะที่การแข่งขันสูงขึ้น และธนาคารใช้นโยบายทางการเงินแบบผ่อนปรน" มาเธอร์กล่าวในรายงาน "ความเคลื่อนไหวและปัจจัยเหล่านี้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในเวลาเดียวกัน"
RBS ธนาคารรายใหญ่ที่สุดอันดับสองของอังกฤษได้ปรับลดคาดการณ์เงินริงกิตประจำปี 2551 ลงมาอยู่ที่ 3.37 ดอลลาร์ต่อริงกิตจากระดับ 3.33 ดอลลาร์ต่อริงกิต ทั้งนี้ ณ เวลา 10.00 น. ตามเวลาในกรุงกัวลาลัมเปอร์เงินริงกิตเคลื่อนไหวที่ระดับ 3.3665 ดอลลาร์ต่อริงกิต โดยตัวเลขคาดการณ์ของ RBS เลวร้ายกว่าที่โพลล์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ไว้ที่ระดับ 3.23 ดอลลาร์ต่อริงกิต ขณะที่ธนาคารกลางกล่าวว่า ค่าเงินจะอ่อนตัวลงแตะที่ 3.5 ดอลลาร์ต่อริงกิตภายในปลายปี 2552 เมื่อเทียบกับระดับคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 3.20 ดอลลาร์ต่อริงกิต
กระทรวงการค้ามาเลเซีย เปิดเผยว่า มาเลเซีย ซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดอันดับสองของโลกและเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดอันดับสองในภูมิภาคอาเซียนมียอดการขนส่งสินค้าโภคภัณฑ์คิดเป็นสัดส่วน 14.5% ของการส่งออกทั้งหมดในครึ่งแรกของปีนี้ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบดิ่งลง 18% นับตั้งแต่วันที่ 30 มิ.ย. และราคาน้ำมันปาล์มรูดลง 23%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--