ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนและฟรังค์ แต่แข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (25 ส.ค.) โดยดอลลาร์ได้รับแรงหนุนจากรายงานที่ว่ายอดขายบ้านมือสองของสหรัฐพุ่งขึ้นเกินความคาดหมาย
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงแตะระดับ 109.34 ดอลลาร์/เยน จากระดับของวันศุกร์ที่ 110.01 ดอลลาร์/เยน และอ่อนตัวลงแตะระดับ 1.0959 ดอลลาร์/ฟรังค์ จากระดับ 1.0987 ดอลลาร์/ฟรังค์
ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.4748 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.4791 ดอลลาร์/ยูโร และค่าเงินปอนด์ร่วงลงแตะระดับ 1.8515 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.8521 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์อ่อนตัวลงแตะระดับ 0.7042 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7086 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ และค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลงแตะระดับ 0.8631 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.8648 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย
ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนจากรายงานของสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติสหรัฐที่ระบุว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 3.1% แตะระดับ 5 ล้านยูนิต สูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ที่ 4.9 ล้านยูนิต และเพิ่มขึ้นจากระดับ 4.86 ล้านยูนิตในเดือนมิ.ย. โดยยอดขายบ้านที่เพิ่มขึ้นเป็นผลจากราคาบ้านที่ลดลง
เคน เมย์แลนด์ ประธานบริษัท ClearView Economics LLC กล่าวว่า "อัตราบ้านถูกยึดที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ส่งผลราคาที่อยู่อาศัยปรับตัวลดลงและมีแนวโน้มที่จะลดลงอีก ซึ่งเป็นโอกาสดีที่ผู้ซื้อจะเข้าซื้อบ้านในช่วงนี้"
อย่างไรก็ตาม ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กถูกกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มในภาคการเงินของสหรัฐ หลังจาก เครดิต สวิส คาดการณ์ว่า บริษัทอเมริกัน อินเตอร์เนชันแนล กรุ๊ป (AIG) ซึ่งเป็นบริษัทประกันรายใหญ่อันดับหนึ่งของโลก จะขาดทุนอย่างหนักในไตรมาสสาม และประกาศลดเป้าหมายราคาหุ้น AIG ซึ่งก่อนหน้านี้ สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ฟิทช์ เรทติ้งส์ เตือนว่า ฟิทช์อาจลดอันดับเครดิตของ AIG เนื่องจากสถานะด้านการเงินของ AIG
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ร่วงลง 241.81 จุด หรือ 2.08% ปิดที่ 11,386.25 จุด และราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ที่พุ่งขึ้น 52 เซนต์ หรือ 0.45% ปิดที่ 115.11 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐรายงานว่า พายุ "กุสตาฟ" ซึ่งเป็นพายุโซนร้อนลูกที่ 7 ในฤดูเฮอริเคนปีนี้ ได้ก่อตัวขึ้นในทะเลแคริบเบียนเมื่อคืนนี้ และคาดว่าจะทวีความรุนแรงขึ้นจนกลายเป็นพายุเฮอริเคน ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าพายุลูกนี้จะสร้างความเสียหายต่อแท่นขุดเจาะน้ำมันในอ่าวเม็กซิโก
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--