ยูโรอ่อนค่าต่อเนื่องเทียบดอลล์ ก่อนเยอรมนีเผยรายงานความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ

          สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 เมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐในเช้าวันนี้ (26 ส.ค.) ก่อนหน้าที่จะมีการเปิดเผยรายงานคาดการณ์ความเชื่อมั่นภาคธุรกิจในเยอรมนีประจำเดือนส.ค.ที่อาจดิ่งร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี
          นักวิเคราะห์จากโพลล์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจในเยอรมนีของสถาบัน Ifo มีแนวโน้มดิ่งลงแตะระดับ 97.2 จุดในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2548 จากระดับ 97.5 จุดในเดือนก่อนหน้านี้   
          สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 09.30 น. ตามเวลาในโตเกียว เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นที่ 109.41 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 109.30 เยนต่อดอลลาร์ 
          ขณะที่เงินยูโรอ่อนค่าลงแตะที่ 1.4714 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับ 1.4754 ดอลลาร์ต่อยูโรที่ตลาดนิวยอร์กคืนวานนี้ ขณะเดียวกัน เงินยูโรยังอ่อนค่าลงแตะระดับ 160.99 เยนต่อยูโร ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือนที่ 160.20 เยนต่อยูโรเมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา 
          ด้านเงินเยนแข็งค่าขึ้นแตะที่ 93.91 ต่อดอลลาร์ออสเตรเลียจากระดับ 95.34 ต่อดอลลาร์ออสเตรเลียเมื่อคืนนี้ นอกจากนี้ เงินเยนยังแข็งค่าขึ้น 1.9% แตะที่ 76.32 ต่อดอลลาร์นิวซีแลนด์หลังจากที่ตลาดหุ้นสหรัฐดิ่งลงหนักที่สุดในรอบเดือนจากกระแสความวิตกกังวลที่ว่าตลาดสินเชื่อจะประสบภาวะขาดทุนเพิ่มมากขึ้น
          นอกจากนี้ เงินยูโรยังอ่อนค่าลงเป็นวันที่สองเมื่อเทียบกับเงินเยน เนื่องจากนักลงทุนชะลอการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรปจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ขณะเดียวกัน เงินเยนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียและดอลลาร์นิวซีแลนด์เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าบริษัทอเมริกัน อินเตอร์เนชั่นเนล กรุ๊ป อิงค์ จะรายงานผลประกอบการขาดทุนซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้กดดันให้นักลงทุนเทขายสกุลเงินที่ให้อัตราผลตอบแทนสูงไปเข้าถือครองสกุลเงินเยนแทน     
          ทซึโตมุ โซมะ นักวิเคราะห์จาก Okasan Securities Co. ในโตเกียวกล่าวว่า "เงินยูโรยังอ่อนค่าลงเรื่อยๆ และนักลงทุนเลิกหวังที่จะได้เห็นเงินยูโรแข็งค่าขึ้นแล้ว เนื่องจากโอกาสที่ ECB จะขึ้นดอกเบี้ยนั้นเริ่มริบหรี่ลงเรื่อยๆ"
          ทั้งนี้ นักลงทุนได้ชะลอการทำธุรกรรม carry trade หลังจากที่บริษัทเครดิต สวิส กรุ๊ป เปิดเผยว่า เอไอจีมีตัวเลขขาดทุนจากการปรับลดมูลค่าทางบัญชีอันเนื่องมากจากตลาดปล่อยกู้จำนอง 2.41 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสนี้ ซึ่งทำให้หุ้นของบริษัทดังกล่าวดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 13 ปี