บริษัทญี่ปุ่นกำลังเข้าซื้อกิจการในต่างประเทศมากขึ้น โดยใช้เม็ดเงินสดทุ่มซื้อบริษัทที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤตการณ์สินเชื่อและเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงทั่วโลก
ข้อมูลที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กรวบรวมได้ระบุว่า มูลค่าการเข้าซื้อกิจการในต่างประเทศของบริษัทญี่ปุ่นในปีนี้พุ่งขึ้นสูงกว่าปีที่แล้วถึง 91% ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดเมื่อเทียบกับ 10 ประเทศตลาดยักษ์ใหญ่ของโลก ซึ่งตรงข้ามกับบริษัทสหรัฐและอังกฤษที่เข้าซื้อกิจการในต่างประเทศน้อยมาเพราะสภาพคล่องของบริษัทเหล่านี้ลดน้อยลงเนื่องจากวิกฤตการณ์ในตลาดซับไพรม์
การที่บริษัทญี่ปุ่นที่เข้าซื้อกิจการในต่างประเทศ รวมถึงบริษัท TDK Corp. บริษัท Daiichi Sankyo Co. ส่งผลให้ญี่ปุ่นกลายเป็นประเทศที่เข้าซื้อกิจการในต่างประเทศมากที่สุดนับตั้งแต่เกิดภาวะฟองสบู่ในช่วงทศวรรษที่ 80
สก็อต แมคแกลชฮาน นักวิเคราะห์จากบริษัท J O Hambro Capital Management ในลอนดอน กล่าวว่า "บริษัทญี่ปุ่นใช้เงินสดทุ่มซื้อกิจการในต่างประเทศมากขึ้น เนื่องจากวิกฤตการณ์สินเชื่อและพิษซับไพรม์ส่งผลให้บริษัทหลายแห่งทั่วโลกอยู่ในภาวะวิกฤตและต้องการสภาพคล่อง ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีของบริษัทญี่ปุ่น"
ข้อมูลของบลูมเบิร์กระบุว่า บริษัทญี่ปุ่นเข้าซื้อกิจการในต่างประเทศคิดเป็นวงเงินเพิ่มขึ้นที่ระดับ 4.68 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีนี้ จากปีที่แล้วที่ระดับ 2.54 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่มูลค่าที่บริษัทสหรัฐเข้าซื้อกิจการในต่างประเทศลดลง 67% จากระดับในปีที่แล้ว และมูลค่าที่บริษัทอังกฤษเข้าซื้อกิจการในต่างประเทศลดลง 66%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--