ยอดการผลิตภาคอุตสาหกรรมของสิงคโปร์ในเดือนก.ค. 2551 ตกลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปี เนื่องจากบริษัทยาและปิโตรเคมีได้ลดผลผลิตลง ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณให้เห็นถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงมากขึ้น
สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจสิงคโปร์เปิดเผยว่า ภาคการผลิตซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 4 ของเศรษฐกิจสิงคโปร์ ตกลง 21.9% จากระดับปีที่แล้ว หลังจากที่ขยายตัวขึ้น 2.4% เมื่อเดือนมิ.ย. ขณะที่ผลการสำรวจความคิดเห็นนักเศรษฐศาสตร์ที่บลูมเบิร์กคาดว่า ภาคการผลิตจะชะลอตัวลง 15.1%
อัลวิน หลิว นักเศรษฐศาสตร์สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด กล่าวว่า แนวโน้มการขยายตัวย่ำแย่ลง เนื่องจากการส่งออกที่ซบเซา และการผลิตก็เช่นกัน การชะลอตัวลงของเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่สุดของเอเชียกำลังส่งผลกระทบต่อการขยายตัวในภูมิภาค ขณะที่ยอดสั่งซื้อยา เครื่องใช้ไฟฟ้า และสินค้าอื่นๆอ่อนตัวลง ซึ่งเดือนนี้สิงคโปร์ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจและการส่งออกปีนี้ลง เนื่องจากสินค้าและบริการต่างๆอ่อนตัวลง
การผลิตภาคอุตสาหกรรมของสิงคโปร์ลดลง 1.8% ในเดือนก.ค. จากระดับเดือนมิ.ย. หลังจากที่ขยายตัวขึ้น 4.4% ในเดือนมิ.ย. ส่วนนักเศรษฐศาสตร์คาดว่า จะขยายตัว 6.4%
รัฐมนตรีกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมของสิงคโปร์คาดว่า อุตสาหกรรมการผลิตจะยังคงอ่อนตัว ท่ามกลางความต้องการสินค้าเภสัชกรรม เคมี และอิเล็กทรอนิกส์ที่อ่อนตัวลงจากตลาดใหญ่ๆ ซึ่งภาคธุรกิจดังกล่าวต่างพึ่งพาอุปสงค์ในต่างประเทศ โดยเฉพาะอุปสงค์ในประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐ ญี่ปุ่น และยุโรป ซึ่งความต้องการในประเทศเหล่านี้ตกลงมาก และคาดว่าจะยังคงอ่อนตัวไปอีกสักระยะหนึ่ง
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--