ริโอ ทินโต กรุ๊ป (Rio Tinto Group) เปิดเผยว่า รายได้สุทธิของบริษัทในช่วงครึ่งปีแรกพุ่งขึ้นสู่ระดับ 6.91 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจากระดับ 3.25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีก่อนหน้านี้ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า จากอานิสงส์ของผลผลิตอลูมิเนียมที่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากและจากราคาสินแร่เหล็กที่พุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ทอม อัลบานีส ซีอีโอวัย 51 ปีของริโอสามารถกระตุ้นผลผลิตสินค้าโภคภัณฑ์ได้มากขึ้นและมีแผนที่จะกระตุ้นผลผลิตสินแร่เหล็กในเวสเทิร์น ออสเตรเลีย รวมถึงผลผลิตเหล็กในเหมืองที่เมืองกินีเพิ่มขึ้นเป็นสามเท่าแตะที่กว่า 600 ล้านตัน
ขณะที่บีเอชพี บริษัทคู่แข่งที่กำลังยื่นข้อเสนอซื้อกิจการของริโอเป็นมูลค่า 1.42 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐรายงานผลประกอบการครึ่งปีงบประมาณหลังที่ขยายตัวขึ้น 30% หลังจากบริษัทมีผลผลิตน้ำมันดิบ สินแร่เหล็ก และถ่านหินพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ทั้งนี้ บีเอชพี ได้ยื่นข้อเสนอซื้อกิจการของริโอไปเมื่อเดือนพ.ย.2550 ขณะที่ในเดือนดังกล่าว ริโอ ได้ซื้อกิจการของอัลแคน อิงค์ในแคนาดาเป็นเงิน 3.81 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทำให้ริโอกลายเป็นผู้ผลิตอลูมิเนียมรายใหญ่อันดับสองของโลก
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ริโอและบีเอชพีเห็นพ้องในข้อตกลงที่จะให้มีการขึ้นราคาสินแร่เหล็กสู่ระดับสูงสุด 97% นับตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยขณะนี้ราคาสินแร่เหล็กพุ่งขึ้น 5 เท่าจากปี 2544 เพราะได้รับแรงขับเคลื่อนจากอุปสงค์ในประเทศจีนและประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่หลายแห่ง
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--