เอชเอสบีซีระบุว่า ยอดค้าปลีกของจีนในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ที่ขยายตัวขึ้นกว่า 20% และยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น มีความแข็งแกร่งพอที่จะช่วยให้เศรษฐกิจขยายตัวเหนือระดับ 9.5% ต่อไปได้ในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้
เอชเอสบีซีเปิดเผยรายงานในหัวข้อ "China Economic Spotlight" ซึ่งบ่งชี้ว่า การใช้จ่ายผู้บริโภคขยายตัวแข็งแกร่งสวนทางกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงเมื่อช่วงต้นปีนี้
หากพิจารณาถึงดัชนีราคาค้าปลีกพบว่า ยอดค้าปลีกในเดือนก.ค.พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 ปีที่ 15.4% ต่อปี (คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากระดับการขยายตัวที่ 14.8% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งตัวเลขดังกล่าวพุ่งขึ้นสูงกว่าอัตราการขยายตัวรายเดือนเฉลี่ยที่ 12.4% ในปี 2550
นอกจากนี้ ยอดค้าปลีกทั้งในเขตเมืองและชนบทล้วนขยายตัวขึ้นแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยยอดค้าปลีกในชนบทพุ่งขึ้น 14% แตะที่ 2.80 แสนล้านหยวน ขณะที่ยอดค้าปลีกในเขตเมืองทะยานขึ้น 17% สู่ระดับ 6 แสนล้านหยวน
ทั้งนี้ ผู้บริโภคมักจับจ่ายซื้อสินค้าในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม อัญมณี เครื่องสำอางค์ เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายและยานยนต์เป็นส่วนใหญ่ โดยยอดขายสินค้าในกลุ่มปิโตรเลียมในเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 55.2% จากระดับ 44.4% ในครึ่งแรกของปีนี้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง แม้ว่าเชื้อเพลิงจะมีราคาแพงขึ้นในเดือนมิ.ย.ก็ตาม
อย่างไรก็ดี เมื่อดูจากสถานการณ์ในตลาดหุ้นที่ดิ่งร่วงลงนั้น เอชเอสบีซีมองว่า การแกว่งตัวร่วงลงอย่างหนักในตลาดเป็นไปในกรอบจำกัดเนื่องจากตลาดมีกลุ่มนักลงทุนที่เล่นหุ้นไม่ถึง 5% ของจำนวนประชากรทั้งหมดในประเทศจีน สำนักข่าวซินหัวรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--