"เทมาเส็ค"เชื่อมือ CEO ประกาศเพิ่มการถือครองหุ้นใน"เมอร์ริล ลินช์"

ข่าวต่างประเทศ Wednesday August 27, 2008 11:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

เทมาเส็ค โฮลดิ้ง ซึ่งเป็นกองทุนบริหารความมั่งคั่ง (SWF) ของสิงคโปร์ ประกาศเพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้นในเมอร์ริล ลินช์ ซึ่งเป็นวาณิชธนกิจรายใหญ่อันดับ 3 ของสหรัฐ โดยกล่าวว่า เทมาเส็คมั่นใจในฝีมือการทำงานของนายจอห์น เธน ซีอีโอเมอร์ริล ลินช์

เทมาเส็คซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่สุดของเมอร์ริล ลินช์ ได้รับอนุมัติจากทางการสหรัฐเมื่อวานนี้ ให้เพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้นในเมอร์ริล ลินช์ โดยเทมาเส็คเพิ่มการถือหุ้นเป็น 13-14%

"เรามองดูสถานการณ์รอบด้าน จึงทำให้เชื่อว่าการลงทุนในเมอร์ริล ลินช์ ถือเป็นการลงทุนที่ให้มูลค่าในระยะยาว เรามีความมั่นใจในฝีมือการทำงานของจอห์น เธน ซีอีโอเมอร์ริล ลินช์ เป็นอย่างยิ่ง และเรามั่นในคณะผู้บริหารของวาณิชธนกิจแห่งนี้ด้วย" ไมเคิล ดี กรรมการผู้จัดการฝ่ายกิจการระหว่างประเทศของเมอร์ริล ลินช์กล่าว

เทมาเส็คเข้าลงทุนในเมอร์ริล ลินช์เป็นวงเงินมูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์นับตั้งแต่วันที่ 24 ธ.ค.เป็นต้นมา หรือคิดเป็น 9.4% หลังจากจอห์น เธน เข้ารับตำแหน่งซีอีโอแทนนายสแตน โอนีล ซึ่งถูกบีบให้ลาออกหลังจากเมอร์ริล ลินช์ ขาดทุนรายไตรมาสหนักสุดในรอบ 93 ปีเมื่อปีที่แล้ว

เชน โอลิเวอร์ นักวิเคราะห์จากเอเอ็มพี แคปิตอล อินเวสเตอร์ส แสดงความเห็นว่า "สถาบันการเงินหลายแห่งยังคงต้องการเงินลงทุนเพิ่ม และกองทุน SWF เช่นเทมาเส็คก็อยู่ในสถานะที่พร้อมจะลงทุน คงต้องติดตามดูต่อไปว่ากองทุน SWF ยักษ์ใหญ่แห่งนี้จะลงทุนในสถาบันการเงินแห่งใดอีก"

เมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา เมอร์ริล ลินช์ ประกาศระงับการจ้างงานใหม่จนถึงช่วงปลายปีนี้ หลังจากบริษัทขาดทุนติดต่อกันถึง 4 ไตรมาส คิดเป็นวงเงินรวม 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์

เจสสิกา อ็อพเพนเฮม โฆษกหญิงของเมอร์ริล ลินช์ กล่าวว่า "เมอร์ริล ลินช์ ขอระงับการจ้างงานใหม่เพื่อลดต้นทุนการดำเนินงาน แต่การระงับจ้างงานครั้งนี้ไม่รวมถึงโบรกเกอร์ซึ่งมีอยู่ประมาณ 16,690 คน จากพนักงานทั้งหมดจำนวน 60,000 คนทั่วโลก นอกจากนี้ การระงับจ้างงานใหม่ยังไม่รวมถึงคณะกรรมการบริหาร ซึ่งการดำเนินงานครั้งนี้มีเป้าหมายที่จะกระตุ้นความสามารถในการทำกำไร"

ด้านนายจอห์น เธน ซีอีโอเมอร์ริล ลินช์ พยายามทุกวิถีทางที่จะลดการใช้จ่ายหลังจากบริษัทขาดทุนในตลาดซับไพรม์และปรับลดมูลค่าสินทรัพย์ทางบัญชี นอกจากนี้ เมอร์ริล ลินช์ ยังลดงบประมาณการจ่ายเงินชดเชยลง 20% ในปีนี้ เหลือเพียง 7.7 พันล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ วิกฤตการณ์ในตลาดสินเชื่อส่งผลให้วาณิชยธนกิจและธนาคารรายใหญ่ของโลกบอกเลิกจ้างพนักงานรวมกันราว 100,000 คนนับตั้งแต่ปีที่แล้ว สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ