สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงจากระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือนเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียวเช้าวันนี้ (28 ส.ค.) หลังจากที่นายเอ็กเซล วีเบอร์ กรรมการบริหารของธนาคารกลางยุโรป (ECB) แสดงความเห็นว่ายังเป็นการเร็วเกินไปที่จะลดอัตราดอกเบี้ยในเขตยูโรโซน ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้ทำให้นักลงทุนชะลอการคาดการณ์เรื่องการลดดอกเบี้ยออกไปในระยะนี้
ทั้งนี้ เงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.4763 ดอลลาร์ต่อยูโร ซึ่งฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือนที่ 1.4570 ดอลลาร์ต่อยูโร ขณะที่เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงที่ 109.40 เยนต่อดอลลาร์ และอ่อนค่าลงจากระดับสูงสุดของปีนี้เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ
นอกจากนี้ สถานการณ์ด้านราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นยังช่วยหนุนให้เงินยูโรแข็งค่าขึ้น โดยนักวิเคราะห์มองว่า ราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นเป็นปัจจัยที่หนุนเงินยูโรซึ่งบ่งชี้ว่ายูโรอาจจะ เริ่มฟื้นตัวขึ้นจากแรงขายในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่เงินดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันจากปัญหาในภาคการเงินของสหรัฐเนื่องจากมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแฟนนี เมและเฟรดดี แมคจะได้รับความช่วยเหลืออย่างไรจากวิกฤติในขณะนี้
โดยการฟื้นตัวของยูโรในวันนี้ได้สกัดแรงบวกของเงินเยนเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ และทำให้ดอลลาร์เคลื่อนตัวในช่วงแคบๆเมื่อเทียบกับเยน
อย่างไรก็ดี ธนาคารกลางของอังกฤษและออสเตรเลียมีแนวโน้มที่จะลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อช่วยปกป้องเศรษฐกิจจากภาวะถดถอยในยามที่เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง ขณะที่ตลาดคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)จะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิมต่อไปอีกหลายเดือน
ขณะเดียวกัน ความเคลื่อนไหวด้านการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจนั้น เยอรมนีจะประกาศตัวเลขว่างงานในวันนี้ ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เขตยูโรโซนจะมีรายงานในวันศุกร์นี้
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--