ธนาคารกลางจีน (PBOC) และคณะกรรมการกำกับดูแลกิจการธนาคารจีน (CBRC) กำลังเรียกร้องให้ธนาคารพาณิชย์เพิ่มความเข้มงวดในการบริหารจัดการการปล่อยสินเชื่อสำหรับโครงการอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ เพื่อควบคุมความเสี่ยงที่อาจเป็นภัยคุกคามภาคธุรกิจธนาคารในประเทศ
นักวิเคราะห์กล่าวว่า การเรียกร้องให้เพิ่มความเข้มงวดในการใช้นโยบายด้านสินเชื่อครั้งนี้มีเป้าหมายที่จะพัฒนาตลาดสินเชื่อสำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้ดีขึ้น ภายใต้เจตนารมณ์ของธนาคารกลางที่หวังจะป้องกันความเสี่ยงทางการเงินที่อาจเกิดขึ้นได้ ทว่า นโยบายดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อเจ้าของโครงการ เนื่องการทำธุรกรรมทางการเงินจะเผชิญอุปสรรคมากยิ่งขึ้น
แถลงการณ์ร่วมของธนาคารกลางและคณะกรรมการกำกับดูแลกิจการธนาคารกลางจีนที่มีขึ้นเมื่อวานนี้ระบุว่า เงินกู้ที่ออกให้กับเจ้าของโครงการอสังหาริมทรัพย์จะไม่ครอบคลุมต้นทุนในการทำธุรกรรมโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน แต่วงเงินดังกล่าวจะออกให้ตามสิทธิ์ของเจ้าของโครงการที่ยื่นเรื่องกู้จำนองที่ผ่านการรับรองให้มีการใช้ที่ดินอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยธนาคารจะกำหนดวงเงินกู้ให้ไม่ต่ำกว่า 70% ของราคาประเมินสำหรับโครงการนั้นๆโดยกำหนดระยะเวลาการออกสินเชื่อนาน 2 ปี
ทั้งนี้ การอนุมัติวงเงินสินเชื่อสำหรับโครงการที่อยู่อาศัยที่เริ่มก่อสร้างในปีหน้าจะต้องดำเนินการด้วยความละเอียดรอบคอบมากขึ้น นับตั้งแต่มีการเซ็นสัญญาเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดิน
นักวิเคราะห์กล่าวว่า นโยบายดังกล่าวจะช่วยให้ธนาคารผู้ปล่อยกู้ไม่ต้องเผชิญความเสี่ยงจากการปฏิรูปภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีขึ้นในช่วงที่เศรษฐกิจโลกชะลอตัว และในยามที่จีนอาจเผชิญภาวะเศรษฐกิจซบเซาหลังการแข่งขันโอลิมปิกปิดฉากลง
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในช่วงครึ่งปีแรก ยอดการปล่อยสินเชื่อสำหรับโครงการอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์พุ่งขึ้น 22.5% ต่อปีแตะที่ระดับ 5.2 ล้านล้านหยวน (7.615 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 15-20% ของสินทรัพย์ทั้งหมดในธุรกิจธนาคาร
นักวิเคราะห์กล่าวว่า หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ยอดขายอสังหาริมทรัพย์ที่ซบเซาและเม็ดเงินทุนที่กระจัดกระจายจะทำให้ธนาคารพาณิชย์เผชิญความเสี่ยง ซึ่งจะยิ่งกดดันให้เศรษฐกิจในประเทศตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--