แบงก์ ออฟ ไชน่า (Bank of China Ltd. ) ธนาคารรายใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของจีนรายงานผลกำไรช่วงครึ่งปีแรกที่ขยายตัวต่ำสุดเมื่อเทียบกับธนาคารผู้ปล่อยกู้รายใหญ่ๆของจีน เนื่องจากธนาคารได้รับแรงกดดันจากตัวเลขขาดทุนในตลาดซับไพรม์ของสหรัฐเป็นมูลค่า 405 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดยธนาคารเปิดเผยว่า รายได้สุทธิของธนาคารพุ่งขึ้นแตะที่ 4.22 หมื่นล้านหยวน (6.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) หรือ 0.17 หยวนต่อหุ้น จาก 2.95 หมื่นล้านหยวน หรือ 0.12 หยวนในปีที่แล้ว ซึ่งตัวเลขดังกล่าวอยู่สูงกว่าระดับที่นักวิเคราะห์จากโพลล์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดไว้ว่าจะอยู่ที่ 4.12 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
"แบงก์ ออฟ ไชน่ากำลังเผชิญความท้าทายใหญ่หลวงในการวางกลยุทธ์และการผนวกรวมธุรกิจ" นักวิเคราะห์จากไชน่า แอสเซท แมเนจเมนท์ โคกล่าว "การดำเนินงานในต่างประเทศและสัดส่วนของสกุลเงินต่างประเทศที่ธนาคารถือครองอยู่จะฉุดรั้งตัวเลขผลกำไรอย่างต่อเนื่อง ขณะที่แผนการบริหารของธนาคารจะไม่สามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้เร็วพอ"
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า หุ้นแบงก์ ออฟ ไชน่าในตลาดหุ้นจีนดิ่งลง 40% และร่วงลง 16% ในตลาดหุ้นฮ่องกง ขณะที่คู่แข่งรายใหญ่อย่างธนาคารไอซีบีซีเปิดเผยผลกำไรที่เพิ่มขึ้น 57% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 7.42 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--