ข้อมูลเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่ได้มีการเปิดเผยออกมาในวันนี้เป็นหลักฐานที่ยืนยันว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นมีความเสี่ยงที่จะเผชิญช่วงขาลง เนื่องจากภาคครัวเรือนและเอกชนปรับลดการใช้จ่าย ท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจในหลายประเทศชะลอตัว
โดยในเช้าวันนี้ กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า สัดส่วนของนายจ้างที่เปิดรับพนักงานในเดือนก.ค.ปรับตัวลดลงไปอยู่ที่ระดับ 0.89% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2547 และลดลงจากระดับ 0.91% ในเดือนมิ.ย. เนื่องจากภาคการก่อสร้าง ขนส่งและการผลิตลดสัดส่วนการเปิดรับตำแหน่งงานใหม่
ขณะเดียวกัน กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นเปิดเผยเช่นกันว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค.พุ่งสูงขึ้นเกินคาด 0.9% จากเดือนก่อนหน้านี้ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์จากโพลล์ของธอมสัน ไฟแนนเชียลคาดว่าจะลดลง 0.5% ซึ่งทำให้นักวิเคราะห์มองว่า เศรษฐกิจจะสามารถฟื้นตัวดีขึ้นมากกว่าที่จะทรุดตัวเข้าสู่ภาวะถดถอย พร้อมทั้งเชื่อว่าแนวโน้มภาคเอกชนที่ซบเซาจะไม่ส่งผลกระทบต่อท่าทีการกำหนดนโยบายทางการเงินของบีโอเจในระยะสั้นๆ
สำหรับยอดการใช้จ่ายภาคครัวเรือนลดลง 0.5% แตะระดับเฉลี่ยที่ 298,366 เยนในเดือนก.ค.จากปีก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นสถิติการปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 ซึ่งข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอยเล็กน้อย และอาจทำให้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับเดิมต่อไปในระยะนี้
ด้านกระทรวงกิจการภายในเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมอาหารสดแต่รวมราคาพลังงานพุ่งสูงขึ้น 2.4% เมื่อเดือนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสถิติการพุ่งขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2540
อากิซึโกะ บันโด นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ Okasan Securities กล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังเผชิญภาวะย่ำแย่ ซึ่งเห็นได้จากการที่บีโอเจส่งสัญญาณในรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลกเมื่อช่วงที่ผ่านมาด้วยการปรับลดแนวโน้มการส่งออก ผลผลิตอุตสาหกรรมและการใช้จ่ายผู้บริโภค แต่นายมาซาอากิ ชิรากาว่า ผู้ว่าการบีโอเจกล่าวว่า ปัจจัยพื้นฐานของระบบเศรษฐกิจยังไม่เปลี่ยนแปลงและเชื่อว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นเผชิญความเสี่ยงไม่มากนัก
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--