(เพิ่มเติม) ฟิทช์ชี้แนวโน้มฟินันซ่ามีเสถียรภาพ -คงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ BBB(tha)

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday August 29, 2008 13:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ได้ประกาศทบทวนแนวโน้มอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด เป็น "มีเสถียรภาพ" จากเดิมที่ "เป็นลบ" และประกาศคงอันดับที่ BBB(tha) ส่วนอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นอยู่ที่ 'F3(tha)'
การปรับแนวโน้มเครดิตและการคงอันดับเครดิตของฟิทช์ สืบเนื่องมาจากการประกาศผลการดำเนินงานในครึ่งแรกปี 2551 ของ FNS และการขายเงินลงทุนในตราสารหนี้ประเภท Collateralized Debt Obligations หรือ CDOs ของบริษัทย่อยจำนวนประมาณ 880 ล้านบาท ในเดือนพฤษภาคม 2551 โดยที่ FNS ได้ลงบันทึกขาดทุนจากการขายเงินลงทุนดังกล่าวจำนวน 70.7ล้านบาท หรือคิดเป็นประมาณ 8% ของต้นทุน โดยการขาดทุนดังกล่าวมีจำนวนใกล้เคียงกับขาดทุนจากการปรับมูลค่าเงินลงทุน (Mark-to-Market Value) ที่ได้รายงานไว้ ณ สิ้นปี 2550
อันดับเครดิตของ FNS สะท้อนถึงโครงสร้างของบริษัทประเภทโฮลดิ้ง การกระจายความเสี่ยงของรายได้ และระดับเงินกองทุนและสภาพคล่องที่เพียงพอของบริษัท อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตยังพิจารณาถึงการที่ FNS มิได้มีสถาบันการเงินที่แข็งแกร่งเป็นผู้ถือหุ้นหลัก ความเสี่ยงทางด้านเครดิต และความเสี่ยงทางด้านตลาด (Market Risk) ที่อาจเกิดขึ้นได้ของบริษัท และการพึ่งพารายได้ค่านายหน้าค้าหลักทรัพย์ และรายได้จากการลงทุนที่มีลักษณะผันผวน
FNS ได้รายงานผลขาดทุนสุทธิที่ระดับ 149.3 ล้านบาท สำหรับผลประกอบการในช่วงครึ่งแรกปี 2551 โดยมีสาเหตุหลักมาจากการขาดทุนจากการขายเงินลงทุนในตราสารหนี้ประเภท CDOs และผลดำเนินงานที่ลดลงของธุรกิจวาณิชธนกิจ ถึงแม้ว่ารายได้จากธุรกิจค้าหลักทรัพย์จะเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าอันเป็นผลจากปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์โดยรวมที่เพิ่มขึ้น ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2551 หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของ FNS อยู่ที่ระดับ 682.7 ล้านบาท หรือคิดเป็น 18.7% ของสินเชื่อทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากระดับ 620.1ล้านบาท หรือ 16.3% ของสินเชื่อทั้งหมด ณ สิ้นปี 2550 ระดับการกันสำรองหนี้สูญของ FNS อยู่ที่ประมาณ 65% ของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้
FNS กำลังอยู่ในช่วงปรับแผนธุรกิจในส่วนของบริษัทเงินทุนฟินันซ่า จำกัดซึ่งมีสินทรัพย์ประมาณ 1.0 พันล้านบาท เพื่อให้สอดรับกับสภาวะของเศรษฐกิจที่ถดถอยโดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2551 ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2551 อัตราส่วนของผู้ถือหุ้นต่อสินทรัพย์ของ FNS อยู่ที่ 30.7% ซึ่งน่าจะช่วยให้ FNS สามารถรองรับกับความผันผวนของธุรกิจได้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ