ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (29 ส.ค.) หลังจากราคาน้ำมันดิบร่วงลง
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.4671 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.4702 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่ค่าเงินปอนด์แร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 26 เดือนที่ 1.8171 ดอลลาร์/ปอนด์ ส่วนค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลงแตะระดับ 108.81 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 109.56 เยน/ดอลลาร์
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลง 13 เซนต์ แตะระดับ 115.46 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนเชื่อว่ารัฐบาลสหรัฐพร้อมที่จะระบายน้ำมันจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ออกมาใช้ในยามจำเป็น หากพายุเฮอริเคน"กุสตาฟ" สร้างความเสียหายต่อแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าสในอ่าวเม็กซิโก ซึ่งเป็นฐานการผลิตน้ำมันในสัดส่วน 1 ใน 4 ของผลผลิตน้ำมันโดยรวมของสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์ได้รับแรงกดดันจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า รายได้ส่วนบุคคลของชาวอเมริกันในเดือนก.ค.ร่วงลง 0.7% ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลล์ธอมสัน/ไอเอฟอาร์คาดว่าจะขยับลงเพียง 0.1% ขณะที่ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคเพิ่มขึ้นเพียง 0.2%
สำนักงานสถิติแห่งชาติญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาในหมวดอาหาร พุ่งขึ้น 2.4% ในเดือนก.ค. หลังจากปรับตัวขึ้น 1.9% ในเดือนมิ.ย. และขยายตัวมากกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลล์บลูมเบิร์กคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.3%
โยชิกิ ชินเกะ นักวิเคราะห์จากสถาบันไดอิจิ ไลฟ์ รีเสิร์ชในกรุงโตเกียวกล่าวว่า "ดัชนี CPI ที่เพิ่มขึ้นอาจยังไม่มากพอที่จะกดดันให้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วๆนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจญี่ปุ่นยังมีความเสี่ยงที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอย และนายมาซาอากิ ชิรากาว่า ผู้ว่าการบีโอเจคาดว่าตัวเลขเงินเฟ้อจะชะลอตัวลง"
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาสสอง ขยายตัวขึ้นในอัตรา 3.3% ต่อปี ซึ่งแข็งแกร่งกว่าที่มีการประเมินในเบื้องต้น และขยายตัวดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัวขึ้นเพียง 2.7%ต่อปี
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--