กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคของสหรัฐในเดือนก.ค.ขยายตัวขึ้นเพียง 0.2% หลังจากพุ่งขึ้น 0.6% ในเดือนมิ.ย. ขณะที่รายได้ส่วนบุคคลของชาวอเมริกัน ร่วงลง 0.7% ในเดือนก.ค. ซึ่งร่วงลงหนักสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.ปีพ.ศ.2548
ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคคิดเป็นสัดส่วนกว่า 2 ใน 3 ของกิจกรรมเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐ และเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ขยายตัวต่อไปได้ ขณะที่นักวิเคราะห์บางคนคาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะปรับตัวลดลงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลง
นักวิเคราะห์ที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กสำรวจความคิดเห็น คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคของสหรัฐเดือนก.ค.จะลดลง 0.2% หลังจากดิ่งลง 0.6% ในเดือนมิ.ย. เพราะปัจจัยกระตุ้นจากมาตรการคืนเงินภาษีของรัฐบาลได้ถดถอยลงแล้ว
แซล กูทิเยร์ นักวิเคราะห์จากบริษัท BMO Capital Markets กล่าวว่า ชาวอเมริกันต้องเผชิญกับอัตราว่างงานที่พุ่งขึ้นรุนแรงและมูลค่าบ้านที่ปรับตัวลดลง จึงทำให้ชาวอเมริกันลดการซื้อสินค้ารายการใหญ่ อาทิ รถยนต์และเฟอร์นิเจอร์ นอกจากนี้ ผู้บริโภคยังนำเช็คเงินคืนภาษีที่ได้จากรัฐบาลมาใช้หมดแล้ว และไม่ต้องการนำเงินของตนเองของมาใช้ในยามที่เศรษฐกิจตกต่ำเช่นนี้ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--