สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เฮอริเคน "กุสตาฟ" ได้ทวีความรุนแรงเป็นพายุระดับ 4 แล้ว ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตและผู้กลั่นน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในสหรัฐรุนแรงกว่าที่เฮอริเคน แคทริน่า และ ริต้า ได้เคยสร้างความเสียหายไว้เมื่อสามปีก่อน
ทั้งนี้ กุสตาฟ อาจทวีความรุนแรงเป็นพายุระดับ 5 ในวันนี้ ขณะที่มันกำลังเคลื่อนตัวข้ามอ่าวเม็กซิโก โดย กุสตาฟ ได้ส่งผลกระทบต่อผลผลิตน้ำมันแล้วถึง 3ใน4 ของโรงกลั่นน้ำมันในภูมิภาคที่ดำเนินการโดยวาเลโร เอนเนอร์จี คอร์ป ผู้กลั่นน้ำมันรายใหญ่สุดของสหรัฐ และเอ็กซอน โมบิล คอร์ป ผู้ค้าน้ำมันจดทะเบียนรายใหญ่ที่สุด
จิม รูอิลเลอร์ นักอุตุนิยมวิทยาอาวุโสจาก Planalytics.com กล่าวว่า กุสตาฟ อาจเป็นกรณีที่เลวร้ายที่สุดสำหรับภาคการผลิตน้ำมันในภูมิภาคอ่าวเม็กซิโก โดยจะอันตรายยิ่งกว่า แคทริน่า
เมื่อเวลา 17.00 น.วานนี้ตามเวลานิวยอร์ก ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐได้ออกประกาศเตือนภัยเฮอริเคนในกัลเวสตัน รัฐเท็กซัส ไปจนถึง เพนซาโคลา รัฐฟลอริด้า โดยกุสตาฟมีความเร็วลมประมาณ 150 ไมล์ (240 กิโลเมตร) ต่อชั่วโมง ขณะที่ขึ้นฝั่งทางตะวันตกของคิวบา และคาดว่าได้เคลื่อนตัวเข้าสู่อ่าวเม็กซิโกเมื่อคืนนี้
บีพี, เอ็กซอน โมบิล และรอยัล ดัตช์ เชลล์ ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันรายใหญ่สุดของยุโรป ได้ปิดการดำเนินงานที่บ่อน้ำมันต่างๆและได้เร่งอพยพคนงานเข้าฝั่ง โดยสำนักงานบริการการจัดการสินแร่แห่งสหรัฐได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า ได้มีการระงับการผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกประมาณ 77% และก๊าซธรรมชาติ 37% นอกจากนี้สถานีขนย้ายน้ำมันดิบขนาดใหญ่ที่สุดของสหรัฐอย่าง หลุยเซียน่า ออฟชอร์ ออยล์ พอร์ท ก็ได้ปิดดำเนินการเมื่อวานนี้
ขณะที่ ตลาดน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ได้ประกาศขยายระยะเวลาการซื้อขายเริ่มตั้งแต่เวลา 14.30 น.วันนี้ เนื่องจากเฮอริเคนกุสตาฟ
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--