จอร์เจียได้เทขายทุนสำรองเงินตราต่างประเทศในสัดส่วน 12.8% หรือคิดเป็นมูลค่า 187.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อเดือนที่ผ่านมา เพื่อป้องกันมิให้เศรษฐกิจเผชิญช่วงขาลง
จากเหตุการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นกับรัสเซียที่เริ่มบุกเข้าโจมตีแคว้นเซาท์ ออสเซเทียเมื่อวันที่ 8 สิงหาคมและปักหลักตรึงกำลังในพื้นที่ดังกล่าวนานถึง 5 วัน ได้ทำให้นักลงทุนแห่ถอนเงินลงทุนออกจากประเทศจอร์เจียเป็นจำนวนมาก
วลาดิเมียร์ โอซาคอฟสกี นักวิเคราะห์จากยูนิเครดิต เอสพีเอกล่าวว่า ความเคลื่อนไหวของธนาคารที่ได้เทขายทุนสำรองเงินต่างประเทศ 12.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อวันได้ช่วยบรรเทาการอ่อนค่าของเงินรูเบิลได้ 0.1% เมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
"สกุลเงินรูเบิลของจอร์เจียอ่อนค่าลงในระยะนี้ แต่การที่ค่าเงินเคลื่อนไหวอย่างแข็งแกร่งจะช่วยประคับประคองเสถียรภาพทางการเงินได้ในยามที่ประเทศเผชิญภาวะวิกฤต" เขากล่าว
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ธนาคารกลางจอร์เจียได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมาอยู่ที่ระดับ 11% จากระดับ 12% ในวันที่ 21 ส.ค. เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากเหตุโจมตี ทั้งนี้ ณ วันที่ 31 ก.ค.จอร์เจียมีทุนสำรองเงินตราต่างประเทศอยู่ที่ 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
"นักลงทุนกำลังจับตาอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อนำมาเป็นปัจจัยที่บ่งชี้ถึงภาพรวมเศรษฐกิจของจอร์เจีย ดังนั้น การรักษาสกุลเงินให้อยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญ" หัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจมหภาคและสถิติของธนาคารกลางจอร์เจียกล่าว "แต่หากความต้องการเงินมีมากกว่าจำนวนเงินที่มีอยู่ เราก็จำเป็นต้องยื่นมือเข้าแทรกแซงตลาด"
ด้านผู้ว่าการธนาคารกลางจอร์เจียคาดว่าเศรษฐกิจจอร์เจียจะขยายตัวที่ระดับ 9% ในปีนี้ ซึ่งปรับตัวลดลงจากระดับ 12.4% ในปี 2550 ขณะที่ฟิทช์ เรทติ้งและสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ ได้ปรับลดอันดับเครดิตในประเทศจอร์เจียนับตั้งแต่สงครามได้เปิดฉากขึ้นเมื่อเดือนที่ผ่านมา
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--